DELTA กำไรวิ่งไม่ทันราคา! งบไตรมาส 2/68 น่าผิดหวัง โบรกฯ แนะ “ขาย” ชี้หุ้นแพงมาก
DELTA แจงกำไรไตรมาส 2/68 โบรกฯ ชี้ตัวเลขออกมาต่ำวกว่าตลาดคาด ระยะสั้นอาจจะกดดัน SET มีมูลค่าตลาด 11.8% ของ SET และกระทบจิตวิทยาลงทุนต่อหุ้นชิ้นส่วนฯ แนะให้หลีกเลี่ยงลงทุน พร้อมกับหาโอกาสดักเก็บหุ้นบิ๊กแคปที่เม็ดเงินจาก DELTA สลับไหลเข้า
บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯถึงผลประกอบการไตรมาสกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,629 ล้านบาท ลดลง 29.5% จากช่วงเดียวกัน ลดลง 15.7% จากไตรมาสก่อนหน้า จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านอากรและการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญ รวมถึงการลงทุนวิจัยพัฒนาที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ มีบันทึกรายได้อื่นๆเพิ่มเติม ร่วมกับการรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ค่าใช้จ่ายในการยุติข้อพิพาทด้านสิทธิบัตร และภาษีส่วนเพิ่มตามกฎ OECD
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/68 ของ DELTA ต่ำกว่าตลาดคาดราว 12% หลักๆ เป็นผลจากอัตรากำไรที่ต่ำกว่าคาด จากผลกระทบค่าเงินบาทแข็งค่า และค่าใช้จ่ายขายบริหารต่อยอดขายที่สูงกว่าคาด โดยตลาดรอติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจากการประชุมนักวิเคราะห์ 29 ก.ค. โดยเฉพาะประเด็นรายจ่ายที่ทำให้ค่าใช้จ่ายขายบริหารสูงขึ้นว่าจะมีรายการที่เป็นรายการพิเศษหรือไม่ นอกจากนี้ รวมถึงแนวโน้มธุรกิจช่วงที่เหลือของปี
ทั้งนี้ ในระยะสั้นผลประกอบการ DETLA ที่ต่ำกว่าคาดมีโอกาสกดดัน SET เนื่องจาก DELTA มีมูลค่าตลาด 11.8% ของ SET นอกจากนี้ น่าจะกระทบจิตวิทยาลงทุนหุ้นชิ้นส่วนฯอื่นๆด้วย ถึงผลกระทบแรงกดดันเงินบาทที่แข็งค่า
ในเชิงกลยุทธ์ระยะสั้น แนะนำหลีกเลี่ยงลงทุน แต่หาโอกาสในหุ้นบิ๊กแคปอื่นๆ ที่เม็ดเงิน DELTA มีโอกาสไหลสลับเข้าแทน อาทิ พลังงาน PTT, PTTEP China Plays PTTGC, SCC, IVL, SCGP สื่อสาร ADVANC ธนาคาร SCB, KTB ภาคบริการ AOT, CPALL
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองถึงผลประกอบการของ DELTA ในครึ่งปีหลังปี 68 ยอดขายและกำไรปกติจะฟื้นตัวจากครึ่งปีแรก หลังเกิดความชัดเจนด้านภาษีทำให้ลูกค้ากลับมาเดินหน้าธุรกิจใหม่มากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายที่ยังสูงกว่าที่ประมาณการ
ดังนั้น จึงคงราคาเหมาะสมที่ 66 บาท และคงคำแนะนำ “ขาย” โดยในเชิงกลยุทธ์มุมมองราคาหุ้น DELTA แพงมากในแง่ P/E และแพงเทียบกับค่าเฉลี่ยของตัวเองในอดีต ประกอบกับงบไตรมาส 2/68 ต่ำคาดทำให้คาดการณ์ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลงในวันนี้
สำหรับหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจัยสำคัญที่ตลาดจะจับตาคือผลการเจรจาภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ หากตัวเลขถูกเก็บต่ำกว่า 18% หุ้นจะมีแรงหนุนเชิงจิตวิทยา แต่เนื่องจาก KCE และ HANA ซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทำให้ทั้งสองตัวเป็นทางเลือก Laggard ที่ปลอดภัยกว่า
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
SCC แจกหนัก! ปันผลกลางปี 2.5 บาท คิดเป็น 92% ของกำไร หลัง Q2 ฟันกำไร 1.7 หมื่นล้าน โต 368%
%20copy_0.jpg)
BH เผยกำไรครึ่งปีลดลง 8.3% เหตุรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ-ไทยหด บอร์ดเคาะปันผลระหว่างกาล 2 บาท
%20copy_0.jpg)
สื่อนอกตีข่าว! สหรัฐฯ ปิดดีลภาษีกับไทยแล้ว โบรกฯ ชี้เป็น Sentiment บวกต่อ SET
%20copy_0.jpg)
หุ้นไทยวิ่งแรง แต่เสี่ยงสะดุด! จับตา 1 ส.ค.นี้ ทางรอด-ร่วง ภาษีทรัมป์ชี้ชะตา SET Index
%20copy_0.jpg)