Talk of The Town
GULF ทุ่มงบ 128 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าฮุบโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay ขนาดกำลังผลิต 770 MW ที่สปป.ลาว
23 กรกฎาคม 2568
GULF ควักเงิน 128 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ จาก Sinohydro (Hong Kong) Holding Limited หลังทำธุรกรรมดันสัดส่วนการถือเป็น 100%

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตามที่บริษัทได้มีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง เมืองปากลาย แขวงไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
อยู่ภายใต้บริษัท Pak Lay Power Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 40% และSinohydro (Hong Kong) Holding Limited (“SHK”) ถือหุ้น 60% โดยโครงการดังกล่าวได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (“กฟผ.”) เป็นระยะเวลา 29 ปี เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าทั้งหมดให้แก่ กฟผ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2575
โดยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 Gulf Hydropower Holdings Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วน 100% ได้เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 60% ใน Pak Lay Power Company Limited จาก SHK คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 128 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นการเข้าซื้อทั้งส่วนของทุนและเงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay ทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมทั้งสิ้น 100%
สำหรับการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำดังกล่าว เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)
ทั้งนี้ โครงการ Pak Lay เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่านตลอดปี (Run-of-the-River) ที่ไม่มีการกักเก็บน้ำในรูปแบบของเขื่อนประเภทอ่างเก็บน้ำ (Reservoir)และไม่มีการเบี่ยงน้ำออกจากแม่น้ำโขงแต่ใช้การไหลของน้ำตามธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า โดยที่ปริมาณน้ำไหลเข้าเท่ากับปริมาณน้ำไหลออก ดังนั้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำโขง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตามที่บริษัทได้มีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง เมืองปากลาย แขวงไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
อยู่ภายใต้บริษัท Pak Lay Power Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 40% และSinohydro (Hong Kong) Holding Limited (“SHK”) ถือหุ้น 60% โดยโครงการดังกล่าวได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (“กฟผ.”) เป็นระยะเวลา 29 ปี เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าทั้งหมดให้แก่ กฟผ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2575
โดยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 Gulf Hydropower Holdings Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วน 100% ได้เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 60% ใน Pak Lay Power Company Limited จาก SHK คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 128 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นการเข้าซื้อทั้งส่วนของทุนและเงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay ทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมทั้งสิ้น 100%
สำหรับการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำดังกล่าว เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)
ทั้งนี้ โครงการ Pak Lay เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่านตลอดปี (Run-of-the-River) ที่ไม่มีการกักเก็บน้ำในรูปแบบของเขื่อนประเภทอ่างเก็บน้ำ (Reservoir)และไม่มีการเบี่ยงน้ำออกจากแม่น้ำโขงแต่ใช้การไหลของน้ำตามธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า โดยที่ปริมาณน้ำไหลเข้าเท่ากับปริมาณน้ำไหลออก ดังนั้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำโขง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ยอดนิยม
_0.jpg)
GULF ทุ่มงบ 128 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าฮุบโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay ขนาดกำลังผลิต 770 MW ที่สปป.ลาว
%20copy_0.jpg)
ตลท. ปลดล็อค THAI หวนกลับเข้าเทรดวันที่ 4 ส.ค. นี้ พร้อมไม่กำหนดเกณฑ์ซิลลิ่ง-ฟลอร์
_0.jpg)
โบรกฯชี้ SET โดนแรงกดดัน หลังทีมไทยเจรจาภาษี “ทรัมป์” ล่าช้า ล่าสุดสหรัฐฯ ปิดดีลภาษีญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์
%20copy_0.jpg)
ทองคำ ทะลุ 3,400 เหรียญสหรัฐฯ ท่ามกลางภาวะไม่แน่นอนทางการค้า SPDR เดินหน้าซื้อสุทธิสะสมทั้งเดือน
%20copy_0.jpg)