Talk of The Town

สรุปสาเหตุ GULF เมื่อ Q2/68 กำลังจะโกยกำไรทะลัก สูงถึง 5.2 หมื่นล้านบาท


18 กรกฎาคม 2568

GULF โบรกฯ คาดผลงานไตรมาส 2/68 ทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาส ชี้โกยกำไรสูงถึง 5.2 หมื่นล้านบาท หลังมีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุน ADVANC จากการควบบริษัท 4.5 หมื่นล้านบาท แต่หากไม่รวมกำไรพิเศษ ยังคาดกำไรปกติทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ต่อเนื่อง

สรุปสาเหตุ GULF_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดกำไรไตรมาส 2/68 ของ
GULF จะสูงถึง 5.2 หมื่นล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการพิเศษคือ กำไร FX 300 ล้านบาท และกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุน ADVANC จากการควบบริษัท 4.5 หมื่นล้านบาท กำไรปกติไตรมาส 2/68 จะอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท เพิ่ม 22%จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 37% จากช่วงเดียวกัน ทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสครั้งใหม่

สำหรับปัจจัยสนับสนุนกำไรปกติ มาจากกำไรขั้นต้นของธุรกิจหลัก-โรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากปริมาณขายไฟฟ้าและรายได้ AP ของ IPP เพิ่มขึน้ ตามการหยุดซ่อมลดลง, กำไรของ SPPs (GMP) ที่เพิ่มขึ้น ตามต้นทุนก๊าซลดลง และปริมาณขายไฟฟ้าของ Solar ที่เพิ่มขึ้น ตามฤดูกาล

พร้อมกันนี้ จะได้รับส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC จากการเปลี่ยนมาถือหุ้นทางตรง 40.4% และกำไรที่เพิ่มขึ้นตามผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นและต้นทุนลดลง ที่ 3.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น ราว 1.4 พันล้านบาท ซึ่งมากเกินพอต่อการลดลงของส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจาก Jackson, BKR2 ตามฤดูกาล

รวมไปถึงได้รับเงินปันผลรับจาก KBANK จากการขึ้น XD 2 รอบ รวม 977 ล้านบาท และรายได้อื่นหนุนโดยกำไรจากการขาย KBANK (GULF รายงานลดสัดส่วนถือหุ้นเหลือ 4.63% เมื่อ 22 พ.ค.) โดยกำไรถูกลดทอนบางส่วนจากดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น ตามการออกหุ้นกู้ชุดใหม่สุทธิ 2 หมื่นล้านบาท ช่วงปลายไตรมาส 1/68

GULF ได้ทยอยประกาศการลงทุนใหม่ต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนมาบตาพุด ระยะที่ 3 การซื้อหุ้นเพิ่มในโครงการพลังงานทดแทนจากผู้ถือหุ้นรายอื่น (เช่น GUNKUL, ETC, BWG) โดยมีทั้งโครงการที่ถือหุ้น 100% และถือหุ้นร่วมกับพันธมิตร (เช่น GUNKUL, เดอะ บลู เซอร์เคิล) และการซื้อหุ้นเพิ่ม 10% จาก ADVANC ใน AISBB (ธุรกิจ Cloud)

ทั้งนี้ การซื้อหุ้นเพิ่มดังกล่าวส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 13.5 กิกะวัตต์ (ปัจจุบัน ณ มิ.ย. อยู่ที่ 8.97 กิกะวัตต์) ช่วยให้สัดส่วนกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มจาก 13% เป็น 40% ในปี 2576 เป็นไปตามเป้าหมายระยะยาว

อย่างไรก็ดีคาดว่าจะมีดีลลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก จากฐานทุนที่ใหญ่ขึ้นมาก Net IBD/E อยู่เพียง 0.9 เท่า (ต่ำกว่าข้อกำหนดสิทธิหุ้นกู้ที่ 3.5 เท่า มาก) ทำให้ GULF มีศักยภาพการกู้เงินเพิ่มได้อีกมาก

ดังนั้น ยังคงคาแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 59 บาท จากคาดการณ์กำไรไตรมาส 2/68 โดดเด่นอย่างมากตามการรับรู้กำไรพิเศษ แต่หากไม่รวม ดูเฉพาะกำไรปกติก็คาดทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ต่อเนื่อง คาดมีความเคลื่อนไหวของธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกจากฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นมาก

และ กกพ. เปิดรับฟังความเห็นค่า Ft งวด ก.ย.-ธ.ค. เป็นบวกกับหุ้นโรงไฟฟ้าจากแนวโน้มคงค่าไฟฟ้าที่ 3.98 บาทต่อหน่วย แต่ราคาก๊าซลดลง 4% รวมถึงราคาหุ้นปัจจุบันแม้ปรับขึ้นมาบ้างแล้ว แต่มองว่าไม่แพงด้วย P/E ที่ 25 เท่า และ P/B 1.9 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต