Talk of The Town

ชี้เป้า 8 บริษัท ผลงานไตรมาส 2/68 เด่น


18 กรกฎาคม 2568

ตลาดหุ้นไทยกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 อย่างเต็มรูปแบบ แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะยังผันผวน แต่มีหุ้นหลายตัวที่น่าสนใจ โดยนักวิเคราะห์ประเมินหลสยบริษัท อาจมีตัวเลขกำไรไตรมาส 2/68 ออกมาอย่างคาดกันไว้ โดยแนะลงทุน 8 หุ้นที่แนวโน้มงบไตรมาส 2/68 เด่น

ชี้เป้า 8 บริษัท_S2T (เว็บ) copy.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกำลังเข้าสู่ช่วงการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 เริ่มประกาศจากกลุ่มธนาคาร หากอิงคาดการณ์ Consensus ที่มีการคาดการณ์ผลประกอบการแล้ว 82 บริษัท (นับเฉพาะ SET) หรือ 65.4% ของมูลค่าตลาด ซึ่งตลาดประเมินกำไรรวมอยู่ที่ระดับ 1.68 แสนล้านบาท ลดลง 7.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 5.4% จากไตรมาสก่อน และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะเริ่มมีการ Previews และรายงานงบในกลุ่ม Real Sector เพิ่มขึ้น

โดย แนะนำลงทุนในหุ้นที่แนวโน้มงบไตรมาส 2/68 เด่น โดยเน้นไปที่กลุ่มที่คาดจะรายงานกำไรเติบโตได้ทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาส หรือ ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว สะท้อนการฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือกลุ่มที่กำไรจะเร่งขึ้นในช่วงถัดไป

ทั้งนี้ แนะนำลงทุนในบริษัทที่ฝ่ายวิจัยทำการพรีวิวเด่น โตเด่นทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน สอดคล้องกับที่ Bloomberg คาดพบว่า มีหุ้นที่น่าสนใจดังนี้ ADVANC, BCH, BDMS, KTC , MINT, MOSHI, PTTGC , SCC

ADVANC (ราคาเป้าหมาย 350 บาท) ฝ่ายวิจัยคาดกำไรหลักไตรมาส 2/68 ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ เติบโต 31%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 5% จากไตรมาสก่อน ปัจจัยหนุนหลักคือ รายได้สูงขึ้นจากทั้งธุรกิจโทรศัพท์ และ FBB ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผสานกับการควบคุมต้นทุนดี คาดการณ์เงินปันผลระหว่างกาลจะสูงถึง 6.56 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 2.4% สำหรับช่วงเวลาการถือครอง 1 เดือน (XD ในเดือนสิงหาคม) 

BCH (ราคาเป้าหมาย 19 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 350 ล้านบาท เติบโต 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 9% จากไตรมาสก่อน จากคาดรายได้เติบโตจากกลุ่มเงินสดและรายได้ประกันสังคมเติบโตดีขึ้น คาด Gross margin 28.3% ดีขึ้นจากมี Economies of scale ของการใช้บริการเพิ่มขึ้น และไม่มีผลกระทบการปรับลดอัตราจ่าย RW>2 เหมือนช่วงเดียวกันของปีก่อน 

BDMS (ราคาเป้าหมาย 33 บาท) คาดไตรมาส 2/68 จะมีกำไรสุทธิ 3,460 ล้านบาท เติบโต 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 20% จากไตรมาสก่อน โดยการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก คาดรายได้ เติบโตตามการใช้บริการทั้งชาวต่างชาติ และ คาดบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี ทำให้มี EBITDA margin 18.8% ดีขึ้น และหากเทียบไตรมาสก่อนที่คาดลดลงตามปัจจัยตามฤดูกาล 

KTC (ราคาเป้าหมาย 40 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 1,875 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน เพราะการลดลงของค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) จากช่วงที่ผ่านมามีการตั้งสำรองล่วงหน้าไว้จำนวนมาก รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์บริหารได้ดี คาดกำไรสุทธิปี 68 ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อจากปีก่อน

MINT (ราคาเป้าหมาย 38 บาท) มองว่ากำไรสุทธิหลักจะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 10%ในปี 2568 อยู่ที่ 9.2 พันล้านบาท MINT ยังคงเป็น Top Pick ในกลุ่มโรงแรม 

MOSHI (ราคาเป้าหมาย 54 บาท) คาดกำไรไตรมาส 2/68 ราว 126 ล้านบาท เติบโต 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 19% จากไตรมาสก่อน เพิ่มแรงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานปีก่อนต่ำที่มีผลกระทบจากสินค้าขาดช่วง คงกำไรปี 68 เติบโต 18% จากปีก่อน ยังเด่นสุดในกลุ่ม 

SCC (ราคาเป้าหมาย 175 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่มีแนวโน้มเป็นจุดสูงสุดปีจากกำไรพิเศษก้อนใหญ่ (ส่วนใหญ่ non-cash) หากตัดออก กำไรปกติโตสูงจากไตรมาสก่อน ฟื้นทั้งอัตรากำไรของธุรกิจซีเมนต์และปิโตรเคมี รวมถึงมีปันผลโตโยต้าเข้ามาหนุนมาหนุน มองจุดซื้อเป็นช่วงที่ HDPE spread เหนือ 400 เหรียญ/ton ได้ต่อเนื่อง ส่งให้ LSP เปิดผลิตได้ในระยะยาว ลดภาระค่าใช้จ่ายคงที่ และมีโอกาสเกิด upside ต่อประมาณการหากผลิตได้มากกว่าคาด 

PTTGC (ราคาเป้าหมาย 28 บาท) คาดผลประกอบการไตรมาส 2/68 ขาดทุนน้อยลงจากไตรมาสก่อน ผสานแนวโน้มครึ่งหลังปี 2568 มีปัจจัยบวกทยอยเข้ามาหนุน 1. การลดค่าใช้จ่ายคงที่ของธุรกิจปิโตรเคมี จะทยอยดีขึ้นอีกในช่วงไตรมาส 2 ถึงครึ่งหลังปี 68 

2. แรงหนุนของ feedstock ราคาต่ำอย่าง Ethane เข้ามามากขึ้นในครึ่งหลังปี 68 และ 3. สถานะทางการเงินที่มีแนวโน้มดีขึ้น หลังการ ขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ core asset (ยังไม่รวมในประมาณการ) และกำไรพิเศษ(ไม่มีภาษี) 

ชี้เป้า 8 บริษัท_S2T (เพจ) copy.jpg