โบรกฯ ชี้ หุ้นไทยพุ่งบนความหวัง อย่าประมาท! เหตุ ศก.-กำไร บจ.ยังไม่ฟื้น แย้มวันนี้อาจได้เห็น 1,200 จุด
โบรกฯ ชี้ SET INDEX ที่ปรับขึ้นมา 3.5% และนับจากจุดต่ำสุดแล้วราว 12% ส่วนหนึ่งก็คือการความหวังเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ คาดวันนี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,185 – 1,210 จุด แนะการลงทุนควรเริ่มมองฝั่งทยอยทำกำไรมากกว่าจะเพิ่มความกล้าลงทุน
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยขึ้นมาด้วยความคาดหวังเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐฯ แต่พื้นฐานยังไม่เห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยยะไม่ว่าจะเชิงเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน การปรับขึ้นนักลงทุนไม่ควรประมาท ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนดีกว่าตลาดประเมินไว้
โดยตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 229 จุด (+0.5%) ขณะที่ Nasdaq , S&P500 ปิดทำ New High ได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1% หลังมีรายงานว่าบ่อน้ำมันของอิรักถูกโจมตี เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯประกาศยอดค้าปลีกประจำเดือน มิ.ย. พบว่าขยายตัว 0.6% จากเดือนก่อน ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 0.1%จากเดือนก่อน ขยายตัวเด่นในสินค้าจำพวกยานยนต์และส่วนประกอบ ขยายตัว 1.2% จากเดือนก่อน เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ขยายตัว 0.9%จากเดือนก่อน ขณะที่สินค้าอื่นๆก็ขยายตัวได้เช่นกัน
สะท้อนถึงอุปสงค์ของสหรัฐฯยังไปได้ดี ทำให้พบเห็นว่าค่าเงิน Dollar Index เริ่มขยับขึ้น แต่อย่างไรก็ตามให้ระมัดระวังความกังวลด้านดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจร้อนแรงจนเกินไปอาจทำให้ FED ตัดสินใจไม่ลดดอกเบี้ย ข้อมูลจาก CME FED Watch ล่าสุดให้ที่ทั้งปี 68 FED จะลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง
สำหรับปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯซึ่งวานนี้ Bloomberg ได้สัมภาษณ์หนึ่งในคณะเจรจากับสหรัฐฯ (ทีม Thailand) ได้ข้อมูลดังนี้ โดยไทยจะยื่นข้อเสนอสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯกว่า 90% ให้ภาษีเป็น 0% จากเดิมทีที่วางแผนไว้เพียง 60% ของสินค้าทั้งหมด พร้อมกับมีแผนจะลดขาดดุลการค้าที่ 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯลงให้ได้ 70% ภายในสามปีและนำไปสู่ดุลการค้าที่จะสมดุลมากขึ้น หนึ่งในทีมเจรจาเชื่อว่าข้อเสนอที่จะมอบให้กับสหรัฐฯนั้นของไทยมีศักยภาพมากกว่าเวียดนามและอินโดนีเซีย
นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้วยังมีข้อเสนอเพิ่มการซื้อสินค้าจากสหรัฐฯจำพวกแก๊สธรรมชาติ เครื่องบิน BOEING สินค้าเกษตรต่างๆ (ข้าวโพด ถั่วเหลือง ) ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยต้นทุนผู้ประกอบการในไทยจากการที่ต้นทุนสหรัฐฯค่อนข้างต่ำ พร้อมเชื่อว่าจะสามารถเจรจาเสร็จทันก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. โดยคาดหวังอัตราภาษีในระดับ 18 – 20%
ทั้งนี้หากสามารถลดภาษีจาก 36% มาอยู่ในกรอบ 18-20% ก็จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยถือว่าใกล้เคียงกับภูมิภาค แต่หากลดลงได้ในระดับ 15% ลงไปจะทำให้ศักยภาพของไทยถือว่าแข็งแกร่ง และตลาดหุ้นก็น่าจะตอบรับเชิงบวก
อย่างไรก็ตาม วานนี้เชื่อว่า SET INDEX ที่ปรับขึ้นมา 3.5% และนับจากจุดต่ำสุดแล้วราว 12% ส่วนหนึ่งก็คือการความหวังเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยข้างต้นอาจไม่ใช่สิ่งที่เพิ่ม Upside ตลาดหุ้นไทยเป็นเพียงตัวจำกัด Downside Risk เชิงเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนมากกว่า ในเชิงปัจจัยพื้นฐานของไทยยังไม่เห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ทิศทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลังยังมีความน่ากังวลเพราะการเติบโตจะลดลงหากเทียบครึ่งปีแรก ผสานกับการท่องเที่ยวที่ยังคงลดลงและยังไม่เห็นการฟื้นตัว
ในเชิง Valuation จากการที่ SET ปรับขึ้นมาทำให้ Forward PE ขึ้นมาที่ 13.2 เท่า หากเทียบกับอดีตก็อาจไม่แพงเพราะเคยไปซื้อขายในช่วง 15-16 เท่า แต่การเติบโตของไทยจากนี้อาจไม่เหมือนในอดีต โดยที่ Hang Seng , Kospi ซื้อขายในช่วง PE เพียง 11 เท่า การปรับขึ้นจากนี้จึงควรระมัดระวังมากกว่าจะไล่ราคา
ดังนั้นวันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,185 – 1,210 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนควรเริ่มมองฝั่งทยอยทำกำไรมากกว่าจะเพิ่มความกล้าลงทุนด้วย Valuation เริ่มแพงผสานกับปัจจัยพื้นฐานยังไม่เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นแต่อย่างไรก็ตามหากรับความเสี่ยงได้ อาจ Trading ในหุ้นกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD)
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
โบรกฯ ชี้ หุ้นไทยพุ่งบนความหวัง อย่าประมาท! เหตุ ศก.-กำไร บจ.ยังไม่ฟื้น แย้มวันนี้อาจได้เห็น 1,200 จุด
_0.jpg)
“ธนาคารกรุงเทพ” อวดงบครึ่งปีแรก 68 โกยกำไรกว่า 2.44 หมื่นลบ. เติบโต 9.5% หลังรายได้มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
%20copy_0.jpg)
AOT ส่อแววเพิ่ม PSC ง่ายขึ้น หลัง “ทักษิณ” หนุนแรง โบรกฯ ชี้มีโอกาสเกิดขึ้นสูง
_0.jpg)
รวบ 5 หุ้น มาร์จิ้นลดหนัก ลุ้นเม็ดเงินไหลเข้า หลัง SET ฟื้นแรง! พุ่ง 109 จุด สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
%20copy_0.jpg)