Talk of The Town

คืนนี้รู้เรื่อง! ทีมไทยเจรจา “ทรัมป์” วัดใจภาษีตอบโต้สูงหรือต่ำ ชี้ชะตา SET จะเสี่ยง หรือ รอด?


03 กรกฎาคม 2568

คืนนี้รู้เรื่อง! ทีมไทยเจรจา ทรัมป์_S2T (เว็บ) .jpg

จากกรณี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับเวียดนาม โดยสาระสำคัญคือ สหรัฐฯ จะกำหนดอัตรา ภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามที่ 20% และ 40% สำหรับสินค้าที่มีการขนส่งผ่าน (transshipment) ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังได้รับสิทธิพิเศษในการส่งออก สินค้าเข้าสู่ตลาดเวียดนามโดยปลอดภาษีนำเข้า (zero tariff) ในหลายกลุ่มสินค้า

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มองว่า หากไทยโดนภาษีนำเข้าที่ 20% และภาษีทางผ่าน 40% (เท่าเวียดนาม) ประเมินผลกระทบโดยตรงจำกัด โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทที่ส่งออกไปสหรัฐฯ คิดเป็นราว 2% ของรายได้รวมของ SET

กลุ่มที่ส่งออกไปสหรัฐฯ สูง ได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA KCE HANA ราว 20% ของรายได้) กลุ่มอาหาร (TU ITC ราว 30-50%) กลุ่มยานยนต์ (SAT ราว 5%)

นอกจากนี้ อาจกระทบทิศทางการลงทุนต่างชาติ การย้ายฐานการผลิตจากมาตราการภาษีทางผ่าน ซึ่งกดดันกำไรกลุ่มนิคมฯ

ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า รมว. คลังได้เดินทางไปสหรัฐแล้ว มีกำหนดประชุมกับนายเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ในวันที่ 3 ก.ค.2568 เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย เพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ของสหรัฐที่เก็บกับไทยจาก 36% ให้เหลือต่ำที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาไทยยื่นข้อเสนอหลายครั้ง และได้รับสัญญาณที่ดีจากฝั่งสหรัฐ

เบื้องต้นมีข้อเสนอสหรัฐฯ ว่าอาจมีการเก็บภาษีตอบโต้ไทย 18% (อัตราเดิม 36%) หากข้อตกลงออกมาต่ำกว่าอัตราที่รับรู้ไป (<18%) เชื่อว่าจะเป็น SETIMENT เชิงบวกต่อไทย

แต่ในทางกลับกัน หากเก็บในอัตราที่สูงกว่า (>18%) อาจเพิ่ม DOWNSIDE ให้กับ GDP ลุ้นแรงหนุนเชิงบวกจากประเด็นที่ไทยเข้าเจรจาสหรัฐฯ ต่อรองเหลือภาษี 10% รวมถึงการขยายระยะเวลาผ่อนผันจัดเก็บภาษีอัตราใหม่ แนะเก็งกำไร COCOCO, CCET, KCE, HANA, TU, ITC, WHA, AMATA