Talk of The Town

บทสรุป! 3 สูตรการเมืองไทย จะพาตลาดหุ้นไปอยู่จุดไหน?


02 กรกฎาคม 2568

ร้อนแรงไม่หยุด สำหรับการเมืองในประเทศ ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9:0 รับคำร้อง สว.ยื่นถอดถอน "แพทองธาร ชินวัตร" ขณะที่มติ 7:2 สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราวตั้งแต่ 1 ก.ค.2568 เป็นต้นไป จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด ให้ส่งเอกสารชี้แจงภายใน 15 วัน

บทสรุป!  3 สูตรการเมืองไทย_S2T (เว็บ) copy.jpg

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัดมองประเด็นดังกล่าว จะไม่ได้มีผลใดๆต่อฝ่ายบริหาร เนื่องจากในช่วงนี้จะเป็นทางรองนายกฯนั่งรักษาการแทนไปก่อน

ในระหว่างที่ศาลใช้เวลาพิจารณาคำร้องนี้ (ซึ่งอาจกินเวลาเป็นเดือน) มองปัจจัยนี้จะไม่ได้มีผลใดๆต่องานของสภาฯเช่นกัน ซึ่งกำลังจะมีการเปิดประชุมสมัยสามัญในวันที่ 3 ก.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม มองไปยังปลายทาง หากนายกฯแพทองธารถูกตัดสินให้มีความผิดจริง ก็จะต้องเริ่มกระบวนการทางสภาในการเลือกนายกฯใหม่ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยก็จะมีแคนดิเดตคนถัดไปรออยู่แล้ว ตราบใดที่เสียงในฝั่งรัฐบาลยังคงเป็นเสียงข้างมากเกิน 250 เสียง คาดว่าก็จะไม่เป็นอุปสรรคต่อเสถียรภาพทางการเมืองแต่อย่างใด

ดังนั้นหากตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลงจากความกังวลของนักลงทุน ยังคงมองเป็นโอกาสในการ "Buy on Weakness" ที่น่าสนใจ ตราบใดที่ร่างพ.ร.บ.งบประมาณยังคงอยู่บน Timeline เดิม ประเมินเช่นเดิมว่า SET Index จะไม่หลุดระดับ Low เดิมที่ 1,050 จุด

ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งในปี 66 นำไปสู่สูตรการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทยและกลุ่มอนุรักษ์นิยม แต่ในระยะสั้นนี้เห็นความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงสูตรการเมืองที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวนายกรัฐมนตรี ขณะที่ภาพรวมในระยะยาวเรายังมองว่าอำนาจของฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะยังคงอยู่

โดยนำเสนอ 3 กรณี (scenario) ซึ่งล้วนแล้วแต่มีจุดร่วมคือจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายในปีนี้ กรณีที่ 1 (S1): นายกรัฐมนตรีลาออก หรือศาลรัฐธรรมนูญสั่งถอดถอน และสภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากพรรคเพื่อไทย รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยยังคงอยู่ต่อไปอีกประมาณ 6-9 เดือน และเกิดแรงกดดันอีกครั้งให้เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีในปี 69 ขณะที่ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณประจำปี 69 ได้รับการอนุมัติทันตามกำหนดในเดือนกันยายนปีนี้ 

กรณีที่ 2 (S2): นายกรัฐมนตรีลาออกหรือถูกศาลสั่งให้ออกจากตำแหน่ง และรัฐสภาลงมติเลือกอดีตนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ต้องหลังจากที่เขาลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี รัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดยกลุ่มอนุรักษ์นิยมจะจัดตั้งขึ้นและจะอยู่ในตำแหน่งจนถึงสิ้นวาระในปี 70 โดยร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 69 ก็ได้รับการอนุมัติในเดือนกันยายนปีนี้เช่นกัน 

กรณีที่ 3 (S3): นายกรัฐมนตรียุบสภา และมีการเลือกตั้งใหม่ในช่วงครึ่งหลังปี 68 ซึ่งส่งผลให้การอนุมัติร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 69ล่าช้าออกไป 

ดังนั้นมองว่ามีความเป็นไปได้ 60/30/10% ในกรณี 1-3 ข้างต้น มองว่า S1 จะไม่มีผลต่อตลาดซึ่งคงเซื่องซึมต่อไป S2 มีแนวโน้มทำให้ตลาดฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (relief rally)  โดยหยุดที่เป้าหมายแรกที่ SET target สิ้นปีของที่ 1,200 จุด และ S3 เป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุด เนื่องจากการอนุมัติงบประมาณที่ล่าช้าและความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้ง ซึ่งอาจดึง SET ลงมาต่ำกว่า 1,000 จุด

บทสรุป!  3 สูตรการเมืองไทย_S2T (เพจ) copy.jpg