Talk of The Town

ดราม่าหุ้นติดมาร์จิ้นจบ! KTC-XPG หลุดเงามืด Forced Sell โบรกฯ ชี้เป็นโอกาส “ซื้อ” รับกำไร Q2 วิ่งแรง


01 กรกฎาคม 2568

ปัญหาการถูกบังคับขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทั้งของ KTC และ XPG   นักวิเคราะห์มอง ประเด็นกดดันราคาหุ้น KTC ได้คลี่คลายไปมากแล้ว ส่วน XPG  ปรับพอร์ตมาร์จิ้นน่าจะสิ้นสุดลงแล้ว เป็นโอกาสเข้าสะสมหุ้นพื้นฐานดี มีลุ้นกำไรไตรมาส 2 เติบโตแรง

ดราม่าหุ้นติดมาร์จิ้นจบ!_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวลงคาดเป็นผลจากมีรายงานการซื้อขาย Big Lot ที่ราคาต่ำกว่ากระดานระหว่างชั่วโมงซื้อขาย โดยมองว่าประเด็นกดดันราคาหุ้น KTC ที่สืบเนื่องจากการถูกบังคับขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้คลี่คลายไปมากแล้ว ราคาหุ้นควรจะทยอยฟื้นตัวขึ้นให้สอดรับกับปัจจัยพื้นฐาน

ทั้งนี้แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 คาด KTC จะมีกำไรสุทธิ 1,897 ล้านบาท โต 3.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 1.9% จากไตรมาสก่อน หนุนจากความต้องการสินเชื่อที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวลง รวมถึงการตั้งสำรองที่คาดยังไม่ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะบริษัทคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี ส่วนทั้งปี 68 คาด KTC มีกำไรสุทธิ 7,669 ล้านบาท โต 3.1% จากปีก่อน

โดยมองราคาหุ้น KTC ที่ปรับลงมา เป็นโอกาสในการลงทุนรอบใหม่ เพราะพื้นฐานของ KTC ยังแข็งแรง ด้วย Coverage Ratio ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม NPL ที่ต่ำ และ ROE ที่สูงถึง 18.3% สูงกว่าคู่แข่ง 7% และเป็น 2 เท่าของธนาคาร ส่วนราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 50% จากมูลค่าพื้นฐานปี 68 ที่ 30 บาท และคาดให้ Div. Yield อีก 5.6% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ขณะที่ XPG  ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง 46% นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน คาดเกิดจากการที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ถูกบังคับขายหุ้นที่ถูกนำมาวางหลักประกันในบัญชีมาร์จิ้น ไม่ได้เกิดจากปัจจัยลบเชิงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทแต่อย่างใด ดังนั้นคาดว่าการปรับพอร์ตมาร์จิ้นน่าจะสิ้นสุดลงแล้ว เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าสะสมหุ้น

ทั้งนี้ คาดกำไรไตรมาส 2/68 ที่ 59 ล้านบาท เติบโตสูงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรเพียงหลักแสนบาท ขณะที่กำไรปี 68 คาดเติบโต 43% เป็น 229 ล้านบาท ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ คือ บริษัทมีเงินสด, เงินลงทุน (รวมสินเชื่อระยะสั้น) สูงถึง 10,000 ล้านบาท หรือ เทียบเท่าราว 0.93 บาทต่อหุ้น