Wealth Sharing

เปิดพอร์ต “มงคล ประกิตชัยวัฒนา” 4 หุ้นดังทำเจ็บ ฉุดมูลค่าหายถึง 1.87 พันลบ.


24 มิถุนายน 2568

ในวันนี้ถือเป็นวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ประกาศใช้มาตรการชั่วคราว อย่างการปรับเกณฑ์ ซิลลิ่ง-ฟลอร์ที่ระดับ 15% จากเดิม 30% เพื่อลดความผันผวนของตลาดจากปัจจัยเรื่องสงครามตะวันออกกลาง ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ช่วยพยุงดัชนีได้ในระดับหนึ่ง

แต่ในมุมกลับกันความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นรายตัวบางตัวได้ปรับตัวลงจนระดับฟลอร์ จนทำให้นักลงทุนไม่น้อยไม่ว่ารายย่อยและรายใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยง ซึ่งหากจะพูดถึงนักลงทุนรายใหญ่หรือเหล่า VI  นาย “มงคล ประกิตชัยวัฒนา” ก็ถือเป็นอีกคนที่โดนผลกระทบด้วยเช่นกัน 

เปิดพอร์ต-“มงคล-ประกิตชัยวัฒนา”_WS-(เว็บ).jpg

โดยจากการสำรวจข้อมูลพอร์ตการลงทุนของ “มงคล ประกิตชัยวัฒนา” ที่ได้มีการลงทุนอยู่ในหุ้นบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC, บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC, บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS และบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ซึ่งทั้ง 4 หุ้น ได้ปรับตัวลงจนติดฟลอร์ทั้งหมด

เริ่มจาก KTC ได้ถือครองหุ้นอยู่ที่ 327,466,600 หุ้น (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 18 เม.ย.68) ซึ่งราคาหุ้นปิดตลาดที่ 34.75 บาท ในวันที่ 20 มิ.ย.68 ส่งผลให้มีมูลค่าอยู่ที่  11,379 ล้านบาท แต่ ณ ตอนปิดตลาดวันที่ 23 มิ.ย. 68 ราคาหุ้นอยู่ที่ 29.50 บาท  หรือปรับตัวลงมา 15.11% ก็ได้ส่งผลให้มูลค่าลดลงมาอยู่ที่  9,660 ล้านบาท

ต่อมา BEC มีการถือครองหุ้นอยู่ที่ 91,682,000 หุ้น (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 พ.ค. 68) โดยราคาหุ้นปิดตลาดที่ 3.66 บาท ในวันที่ 20 มิ.ย.68 ส่งผลให้มีมูลค่าอยู่ที่  335.55 ล้านบาท แต่ ณ ตอนปิดตลาดวันที่ 23 มิ.ย. 68 ราคาหุ้นอยู่ที่ 3.10 บาท  หรือปรับตัวลงมา 15.30% ก็ได้ส่งผลให้มูลค่าลดลงมาอยู่ที่  284.21 ล้านบาท

TPS การถือครองหุ้นอยู่ที่ 69,654,800 หุ้น (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เม.ย.68) จากราคาหุ้นปิดตลาดในวันที่ 20 มิ.ย.68ที่ราคา 3.28 บาท ส่งผลให้มีมูลค่าอยู่ที่ 228.46 ล้านบาท และต่อมา ณ ตอนปิดตลาดวันที่ 23 มิ.ย. 68 ราคาหุ้นอยู่ที่ 2.78 บาท หรือปรับตัวลงมา 15.24% ก็ได้ส่งผลให้มูลค่าลดลงมาอยู่ที่ 193.64 ล้านบาท

และสุดท้าย XPG การถือครองหุ้นอยู่ที่ 651,209,995 หุ้น (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 13 มี.ค.68) โดยราคาหุ้นปิดตลาดที่ 0.71 บาท ในวันที่ 20 มิ.ย.68 ส่งผลให้มีมูลค่าอยู่ที่  462.35 ล้านบาท แต่ ณ ตอนปิดตลาดวันที่ 23 มิ.ย. 68 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.60 บาท  หรือปรับตัวลงมา 15.49% ก็ได้ส่งผลให้มูลค่าลดลงมาอยู่ที่  390.72 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากเทียบมูลค่าพอร์ตการลงทุนรวมในช่วงปิดตลาดวันที่ 20 มิ.ย. 68 จะอยู่ที่ 12,405 ล้านบาท และเพียงแค่วันถัดมาของการเปิดทำการตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ ช่วงปิดตลาดวันที่ 23 มิ.ย.68 มูลค่าก็ลดลงไปถึง 1,877 ล้านบาท หรือปรับลงกว่า 15.12% ส่งผลให้มูลค่าพอร์ตลงมาอยู่ที่ 10,528 ล้านบาท

เปิดพอร์ต-“มงคล-ประกิตชัยวัฒนา”.jpg