SCB Julius Baer เปิดมุมมองศก.โลกครึ่งปีหลัง แนะกระจายลงทุนรับมือความไม่แน่นอน
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer) จัดงานสัมมนาเอ็กซ์คลูซีฟ “มุมมองเศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลัง 2568” (Market Outlook H2/2025) ภายใต้หัวข้อ “A New World Order” สำหรับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (Ultra High Net Worth Individuals – UHNWIs) เพื่อนำเสนอมุมมองเศรษฐกิจโลกและแนวทางจัดพอร์ตการลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ท่ามกลางความผันผวนที่ยังคงดำเนินต่อเนื่อง
นายเอเดรียน เมซซินาวเออร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ภาพรวมเศรษฐกิจโลกครึ่งปีแรก 2568 ยังคงเผชิญกับความผันผวน นักลงทุนต้องรับมือกับนโยบายที่คาดเดาไม่ได้ ทั้งด้านมาตรการภาษี งบประมาณ และประเด็นทางการคลัง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน ทิศทางอัตราดอกเบี้ย ตลาดพันธบัตร และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงราคาทองคำที่เคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนจับตาดูอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ความสัมพันธ์ทางการค้าทั่วโลกที่กำลังเผชิญการทบทวนและประเมินใหม่ ทำให้ความสนใจถูกจับจ้องไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รวมถึงผู้เล่นหน้าใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในระดับโลก เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงของความเป็นผู้นำในตลาดการเงินโลกจากสินทรัพย์ของสหรัฐฯ ไปสู่ความต้องการการลงทุนในภูมิภาคอื่นๆ มากขึ้น เช่น ยุโรป ที่อาจกลายเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ”
ด้าน นายคีน ตัน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายการแนะนำการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า ความเสี่ยงจาก stagflation หรือ ภาวะเศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้อยังคงอยู่ และมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง การกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคที่มีนโยบายการเงินยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
โดยแนะนำให้จับตาภูมิภาคยุโรปซึ่งเริ่มเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับลดลงและการเพิ่มงบลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและภาคการป้องกันประเทศ ด้านภูมิภาคเอเชีย คาดว่าจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเน้นการบริโภคในประเทศ หุ้นกลุ่มอุปสงค์ภายในและหุ้นปันผลจึงยังมีโอกาสเติบโต
ทั้งนี้ เรายังคงให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินสหรัฐฯ เช่น ทองคำ รวมถึงการถือสกุลเงินที่มีเสถียรภาพอย่างฟรังก์สวิส อีกทั้งแนะนำการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก อาทิ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ (Hedge fund) หรือสินทรัพย์นอกตลาด (private assets) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโดยรวม”
“ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก SCB Julius Baer ยังคงมุ่งมั่นเคียงข้างและสนับสนุนลูกค้าคนสำคัญในทุกเส้นทางของความมั่งคั่ง ผ่านบริการและโซลูชันบริหารความมั่งคั่งที่ครอบคลุมและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับระดับสากล ควบคู่กับการให้คำแนะนำที่เจาะลึกและเหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละราย พร้อมช่วยวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นอย่างยั่งยืน สะท้อนความมุ่งมั่น “Your legacy. Our promise.” ของ SCB Julius Baer ในฐานะผู้ให้บริการธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูงโดยเฉพาะ (Pure Play Private Bank) ในการส่งมอบองค์ความรู้เชิงลึกและคำแนะนำด้านการลงทุนเฉพาะบุคคล เพื่อตอบสนองเป้าหมายทางการเงินของลูกค้าคนสำคัญอย่างรอบด้านในทุกสภาวะเศรษฐกิจอย่างแท้จริง” นายเอเดรียน กล่าว
ยอดนิยม
%20(1).jpg)
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ 5 นักวาดคาแรคเตอร์ ส่งเสริมความรู้ทางการเงินทุกช่วงวัย ผ่านโครงการ “The Art of Happy Money การเงินดีต้องมีศิลป์”
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 18 มิ.ย. 2568

บี.กริม เทคโนโลยี จับมือ NOVENCO ผนึกกำลังรุกตลาดระบบปรับอากาศและระบายอากาศในประเทศไทย

SCB Julius Baer เปิดมุมมองศก.โลกครึ่งปีหลัง แนะกระจายลงทุนรับมือความไม่แน่นอน
