Talk of The Town

DOHOME แรงกดดันรอบด้าน! โบรกฯหั่นคำแนะนำ “ขาย” เป้าเหลือ 3 บาท รับยอดขายน่าผิดหวัง ฉุดกำไรแผ่ว


06 มิถุนายน 2568

DOHOME โดนนักวิเคราะห์ สั่งขาย หลังแนวโน้มยอดขายสาขาเดิมโตน่าผิดหวัง ดึงกำไรช่วง 3 ปีลง แผนขยายสาขาช่วงเศรษฐกิจอ่อนแอ อาจกดดันมาร์จิ้น 

DOHOME แรงกดดัน_ข่าวลูกค้า S2T (เว็บ)_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองต่อหุ้น DOHOME ได้ปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น ขาย เนื่องจากปรับลดประมาณการกำไรลง 9-25% ในปี 2568-2570 เพื่อสะท้อนการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่น่าผิดหวัง สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นที่ตํ่าลง และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่สูงขึ้น ราคาเป้าหมายซึ่งรวมปัจจัยหุ้นปันผลหุ้น ถูกปรับลดเหลือ 3 บาท จากเดิม 7 บาท 

DOHOME มีร้านค้า 24 แห่ง และการขยายร้านเพิ่มปีละ 3 แห่งถือว่าสูง การขยายตัวนี้อาจจะดีในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น แต่จะส่งผลกดดันต่อ EBIT margin ในช่วงเศรษฐกิจอ่อนแอ และมองว่า DOHOME แพง ด้วยระดับ P/E ที่ 20.8 เท่า ขณะที่คาดว่า EPS จะเติบโตที่ -9%/3% ในปี 2568-2569

ทั้งนี้ ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2562 DOHOME ได้เดินหน้าขยายสาขาเชิงรุกเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นรายใหญ่ ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมีสาขาขนาดใหญ่เพียง 24 สาขา และขนาดเล็ก 15 สาขา โดยในปี 2567 บริษัทได้หยุดขยายสาขาชั่วคราวเนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ สูงถึง 1.3 เท่า และเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ในปีนี้บริษัทกลับมาขยายสาขาอีกครั้ง 

โดยมีแผนเปิดร้านขนาดใหญ่ 3 แห่ง (มากกว่า 20,000 ตร.ม.)และ Dohome To Go ขนาด 800–1,000 ตร.ม. อีก 10–12 แห่ง บริษัทตั้งเป้าจะมีร้านขนาดใหญ่ 32 แห่ง และ Dohome To Go 50 แห่ง ภายในปี 2570 แม้การขยายตัวจะส่งผลบวกต่อการเติบโตในระยะยาว แต่ในช่วงเศรษฐกิจอ่อนแอ คาดว่าต้นทุนจะสูง และ EBIT margin จะลดลง โดยอัตรากําไรสุทธิของบริษัท นั้นบางอยู่แล้วที่ 1.9% ในปี 2568–2569 เทียบกับค่าเฉลี่ยของคู่แข่งที่ 7% ในทั้งสองปี

ขณะที่ธุรกิจมีแนวโน้มอ่อนแอ เนื่องจากได้ประโยชน์จากการเบิกจ่ายโครงการภาครัฐมากขึ้นตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา DOHOME จึงมียอดขายสาขาเดิมเป็นบวกเล็กน้อยที่ 1.5% และ 0.4% ในไตรมาส 4/67 – 1/68 แม้ยอดขายสาขาเดิมในเดือนเมษายนจะทรงตัว แต่กลับลดลงอย่างมากในระดับเลขตัวเดียวปลายในเดือนพฤษภาคม 

โดยความต้องการของลูกค้าขั้นปลายอ่อนแอ สะท้อนในยอดขายสาขาเดิมที่ลดลงราวสิบต้นๆ ในเดือนพฤษภาคม ส่วนยอดขายสาขาเดิมของลูกค้าที่เป็นผู้รับเหมาและผู้จำหน่ายต่อก็ลดลง 3-5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือนพฤษภาคม ปัจจุบันคาดว่ายอดขายสาขาเดิมอยู่ที่ -4.2%,-3.0% และ -2.5% ในไตรมาส 2/68-4/68

ทั้งนี้ อัตรากำไรลดลงหักล้างประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง คาดว่า net D/E ของ DOHOME อยู่ที่ 1.3–1.4 เท่า ในปี 2568–2569 โดยหนี้ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยให้ต้นทุนดอกเบี้ยลดลง ซึ่งคาดว่าปี 2568 ดอกเบี้ยจ่ายจะลดลง 12% แต่ทรงตัวในปี 2569 เนื่องจาก IBDs เพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงในครึ่งปีหลังปี 68 เหลือ 1.50% และ ครึ่งปีแรกปี 69  เหลือ 1.25% จากปัจจุบันที่ 1.75% 

อย่างไรก็ตาม ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลงจะถูกหักล้างด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากการขยายสาขา ซึ่งทำให้ EBIT margin ลดลงเหลือ 3.9% /3.8% ในปี 2568–2569 สุทธิแล้ว แม้จะมีการขยายสาขา แต่คาดว่ากำไรของ DHOME จะเติบโตที่ -9%, 3% และ 14% ในปี 2568–2570