NUT เคาะราคา IPO 6.80 บาท/หุ้น จองซื้อ 4-6 มิ.ย.นี้ แต่งตั้ง PST ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้น
บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT ผู้นำด้านการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารครบวงจร เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 37 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 6.80 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2568 คาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นวันแรก ในวันที่ 11 มิถุนายน นี้ ด้านบล.ฟิลลิป ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดี เตรียมผนึกบริษัทหลักทรัพย์ 2 แห่ง ร่วมจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT เปิดเผยว่า NUT ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ในราคา 6.80 บาทต่อหุ้น โดยจะเสนอขายหุ้นจำนวน 37 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30.83 ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท ซึ่งจะเปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2568 และ คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค
โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
การกำหนดราคา IPO ในครั้งนี้ ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมและสะท้อนปัจจัยพื้นฐานของบริษัท โดย NUT เป็นองค์กรที่มีจุดแข็งทั้งด้านการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรในอุตสาหกรรมสุขภาพ การผลิตที่ได้มาตรฐานสากล และความสามารถในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแผนขยายธุรกิจที่ชัดเจนและหลากหลาย ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว จึงเป็นธุรกิจที่มีความน่าสนใจ และ คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
นายภาคิณ กิตติภานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT กล่าวว่า บริษัทฯ ถือได้ว่าเป็นผู้นำด้านการพัฒนาและการผลิต ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง ที่มีจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งแต่การคิดค้นสูตรที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการดูแลสุขภาพด้วยทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ สามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างเต็มรูปแบบภายในโรงงานของตนเอง ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานสากล และ การจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
ทั้งนี้ ภายหลังจากการระดมทุน บริษัทมีแผนที่จะนำเงินระดมทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การผลิตคอนเทนต์ (Content) รวมถึงการว่าจ้างพรีเซ็นเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเสริมอาหารและเครื่องสำอาง
ขณะที่บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในสามกลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplement) ซึ่งจะมุ่งเน้นการพัฒนาสูตรเฉพาะและสร้างความแตกต่างของ แบรนด์ ผ่านการสื่อสารที่เข้าถึงผู้บริโภคด้วยอินฟลูเอนเซอร์ และ กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก, กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skin Care) ที่เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ปัญหาผิวเฉพาะทาง พร้อมคัดสรรส่วนผสมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Personal Care) ที่มุ่งนำเสนอนวัตกรรมใหม่ เช่น สเปรย์ระงับกลิ่น และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยในชีวิตประจำวัน โดยทุกกลุ่มจะเดินหน้าสื่อสารแบรนด์ผ่านคอนเทนต์คุณภาพ ผสานช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนและอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ดี
ยอดนิยม

EGCO Group เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นโรงไฟฟ้า Linden Cogen เป็น 38% เสริมแกร่งกลยุทธ์การลงทุนในสหรัฐอเมริกา

เศรษฐกิจเพชรบูรณ์คึกคัก! โรงแรม–รีสอร์ตยอดจองพุ่ง หลัง GMM SHOW ประกาศวันจัดเทศกาลดนตรีร็อกฤดูหนาว “Rock Mountain 2026” คาดเงินสะพัดกว่า 400 ล้านบาท

SkinX #แอปหมอผิว ก้าวสู่ปีที่ 5 ตอกย้ำผู้นำ Telemedicine แพทย์ผิวหนังออนไลน์ พร้อมขยายบริการสู่สุขภาพและความงามครบวงจร
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 14 ต.ค. 2568
.jpg)