Fund / Insurance

คปภ.สั่ง“เคดับบลิวไอ ประกันภัย” หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว


23 พฤษภาคม 2568
คปภ.jpg

บอร์ด คปภ. เห็นชอบให้นายทะเบียนสั่ง “เคดับบลิวไอ ประกันภัย” หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวตั้งแต่ 22 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป


ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่    22 พฤษภาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 12/2568 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ได้ปรากฏพฤติการณ์และหลักฐานต่อนายทะเบียนว่า บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กระทำการ  ฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดในกรณี ดังต่อไปนี้

(1) ไม่จัดสรรเงินสำรองตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

(2) ไม่ยื่นงบการเงิน สำหรับรอบปีปฏิทิน พ.ศ. 2567 ที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแล้ว ภายในสี่เดือนนับแต่วันสิ้นสุดรอบปีปฏิทิน อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 47 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 9 (1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการจัดทำและยื่นงบการเงินของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2566

(3) ไม่ยื่นรายงานการดำรงเงินกองทุนประจำปี 2567 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ภายในสี่เดือนนับแต่     วันสิ้นปีปฏิทิน อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 27/5 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 6/1 (1) และข้อ 6/3 (1) แห่งประกาศนายทะเบียน     เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการดำรงเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2564    และที่แก้ไขเพิ่มเติม

(4) ไม่ยื่นรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการ รายเดือนมกราคม และเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2568 ภายในสิ้นเดือนถัดไป อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 7 (3) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการจัดทำและยื่นรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2566

(5) ไม่ยื่นงบการเงินรายไตรมาส 1/2568 ที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้วภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันสุดท้ายของ     ไตรมาส อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 47 (1) แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 9 (2) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาในการจัดทำและยื่นงบการเงินของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2566

นอกจากนี้ บริษัทได้ทำข้อตกลงกับบริษัทแห่งหนึ่งโดยบริษัทดังกล่าวตกลงสนับสนุนทางการเงินเพื่อให้บริษัทนำไปชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามคำพิพากษาเมื่อคดีถึงที่สุด และตั้งเป็นรายการลูกหนี้จากการโอนภาระหนี้สิน (Transfer Liability) แต่ปัจจุบันมีข้อบ่งชี้เกี่ยวกับการด้อยค่า เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีฐานะการเงินที่มีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่อเนื่อง (Going concern) จากผลขาดทุนสุทธิ จึงไม่มีความสามารถในการชำระหนี้หรือสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มบริษัทได้ และแม้ว่าบริษัทจะมีแผนในการขายกิจการหรือหาผู้ร่วมลงทุนรายใหม่ แต่บริษัทยังคงต้องชำระหนี้ที่ถูกฟ้องร้องค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เนื่องจากบริษัทดังกล่าวอาจไม่ให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับกรณีดังกล่าวอีกต่อไป จึงควรต้องบันทึกรายการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ทำให้มีความเสี่ยงที่อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนอาจจะต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด แต่บริษัทไม่ดำเนินการ ทำให้ฐานะการเงินของบริษัทไม่น่าเชื่อถือ

จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น เป็นเหตุให้ไม่สามารถประเมินได้ว่าบริษัทมีฐานะและการดำเนินการที่มั่นคง เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุน และสินทรัพย์สภาพคล่อง การจัดสรรเงินสำรอง การจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย การรายงานและการรับรองการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยการประเมินราคาทรัพย์สินและหนี้สิน นายทะเบียนจึงเห็นว่า บริษัทมีฐานะหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย  แก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ตามข้อ 5 (3) (4) และ (14) แห่งประกาศนายทะเบียน เรื่อง กำหนดกรณีที่ถือว่าบริษัทประกันวินาศภัยมีฐานะหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย พ.ศ. 2567