JMART ไร้ปัจจัยบวก การฟื้นตัวยังต้องใช้เวลา โบรกฯ หั่นคำแนะนำเหลือเพียง “ถือ”

รอบงบไตรมาส 1/2568 ของบริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART มีกำไรสุทธิ 140.3 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทได้เริ่มปรับโครงสร้างต้นทุนและประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อรองรับผลกระทบและวางรากฐานสำหรับการเติบโตระยะยาว

ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า กำไรไตรมาส 1/68 ชะลอหนัก การฟื้นตัวยังต้องใช้เวลา โดยภาพในไตรมาส 2/68 ยังดูไม่สดใส เพราะเป็นช่วง low season ของธุรกิจจัดจำหน่ายมือถือ นื่องจากมือถือแบรนด์ดังยังไม่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ 

นอกจากนี้ JMT ยังมีแนวโน้มที่ จะต้องตั้ง ECL เพิ่มอีก เพราะเศรษฐกิจที่โตช้ากดดันความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ บวกกับไตรมาส 2/68 ยังเป็นไตรมาสที่ยังมีวันหยุดยาว เป็นอุปสรรคต่อการจัดเก็บหนี้

จากกำไรในไตรมาส 1/68 ที่ออกมามีสัดส่วนเพียง 15% ของคาดการณ์ทั้งปี บวกกับแนวโน้มที่ยังไม่สดใสต่ออีกในไตรมาส 2/68 ทำให้ต้องปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2568 ของJMART ลง 23% จากเดิม เหลือ 759 ล้านบาท ลดลง13% จากปีก่อน ส่งผลให้ราคาเป้าหมายปี2568 ปรับลดจาก 16.30 บาท วิธี SOTP ที่อิงราคา JMT เฉลี่ยที่ 12.38 บาท (อิงBloomberg ณ 16 พ.ค. 68 เฉพาะบทวิเคราะห์ที่ออกหลังประกาศงบไตรมาส 1/68)

ดังนั้นปรับคำแนะนำลงจาก “Outperform” เป็น “Neutral” แม้ราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว แต่ระยะสั้นยังขาดปัจจัยบวกที่จะช่วยผลักดันราคาหุ้น