เปิด 13 หุ้นบิ๊กแคปใน SET50 ราคาวิ่งในเดือนม.ค.68 จับตา SCC-SCGP โชว์ผลงานสัปดาห์นี้
จากการรวบรวมข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นใน SET50 ในเดือนแรกของปี 2568 พบว่ามีหุ้น 13 บริษัทที่สามารถให้ผลตอบแทนเป็นบวกจากราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นได้ ส่วนที่เหลือราคาหุ้นปรับลดลงทั้งหมด 
สำหรับหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นประกอบด้วย หุ้นCBG, 1.27% BBL 0.99%,KBANK 1.93% ,KTB 7.62%, SCB 4.68% TTB 0.54%,KTC 3%,GULF 1.68%,PTTEP 2.94%,CRC 0.74%,BTS 0.82%,INTUCH 2.58%,TRUE 6.31%
ขณะที่บล.ดาโอ(ประเทศไทย)ระบุว่า ตลาดหุ้นไทย สลับกันเล่นรายวัน แต่เห็นได้ว่ามีแรงซื้อเข้ามาพยุงดัชนีฯ ไม่ให้หลุด 1340 จุด สัปดาห์นี้ ปัจจัยหนุนตลาด จะเป็นเรื่องการเก็งงบไตรมาส 4/67 และจีนเตรียมมาตรการเศรษฐกิจรอบใหม่ และ “Trump” จะไม่ใจร้ายกับจีนมากนัก ประเมินกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,335-1,370 จุด
ตลาดหุ้นทั่วโลก เข้าสู่ช่วงของการรายงานกำไร จากนี้ไปหุ้นใน sector ต่างๆ จะทยอยออกมา หุ้นไทย สัปดาห์นี้จะเป็น SCC, SCGP ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นแต่ละแห่ง มีการเคลื่อนไหวด้วยปัจจัยเฉพาะตลาด(ผลประกอบการหุ้นรายตัว) มากขึ้น
ด้านบล.ทรีนีตี้ ระบุคาดสัปดาห์นี้ SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบ หลังเตรียมเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นเอเชียบางแห่งปิดทำการ มองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1335-1375 จุด สำหรับปัจจัยหนุนในช่วงแรกมองไปยังทิศทาง Fund flow ที่อาจผันแปรในเชิงบวกไปจามโมเมนตัมของเงินบาทที่แข็งแกร่งในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยกดดันอาจได้แก่การย่อตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากที่จีนรายงานตัวเลขภาคการผลิตล่าสุดออกมาอ่อนแอ ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนำถือครองหุ้นในส่วนเดิมประเมินกลุ่ม Domestic play โดยเฉพาะกลุ่มที่อิงกับการบริโภคในประเทศ (ธนาคาร, ค้าปลีก, ไฟแนนซ์) จะสามารถปรับตัวแข็งแกร่งกว่ากลุ่ม Global play ได้ต่อไป
ส่วนบล.ยูโอบีเคย์เฮียน(ประเทศไทย)ประเมินว่าองค์ประกอบของตลาด (Market breadth) บ่งชี้การฟื้นตัวในรอบนี้ อาจนำโดยกลุ่มหุ้นที่ปรับลดลงเยอะ: จำนวนหุ้นที่ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน เพิ่มขึ้นทั้งใน SET และ SET50 ขณะที่จำนวนหุ้นที่เข้าสู่แนวโน้มฟื้นตัว (MACD Day พลิกจากลบเป็นบวก) มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนใน 2 วันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามจำนวนหุ้นที่ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์ ไม่ได้เพิ่มมากนัก ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะในกลุ่ม SET50 และ SET100) อยู่ในโซนใกล้จุดต่ำสุด 52 สัปดาห์ ดังนั้นการฟื้นตัวในรอบนี้ มีแนวโน้มที่จะถูกผลักดันโดยกลุ่มหุ้นที่ลงมาเยอะหรืออยู่ในโซนล่าง
สำหรับภาพรวมกลยุทธ์ มีโอกาสฟื้นตัวเชิงบวก โดยลุ้นยืน 1,365 จุด เพื่อยกกรอบการเล่น ยังชอบกลุ่มผลประกอบการดี ในไตรมาส 4/67- ไตรมาส 1/68 มีความน่าสนใจ โดยเราชอบ หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, การแพทย์, สื่อสาร, ค้าปลีก และอาหาร (เครื่องดื่มและเนื้อสัตว์) กลุ่มโรงไฟฟ้าใหญ่และหุ้นปันผลสูงเริ่มกลับมาน่าสนใจ
ขณะที่ธนาคารอาจมีแรงทำกำไร โดยมีจุดซื้อคืนประมาณปลายเดือน ก.พ. หุ้นโซนล่างที่น่าสนใจ ได้แก่ SCC, SCGP, HANA, KCE, CREDIT, EGCO, RATCH, TOP, TU, SNNP, TIPH, FORTH, BAM (เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน)
ยอดนิยม
GULF เผยโซลาร์ฟาร์ม 2 โครงการ 85 MW จ่ายไฟเข้าสู่ระบบให้ กฟผ. ลั่นปี 67-68 มีโรงไฟฟ้าจ่ายเพิ่มกว่า 649 MW
“บอย ท่าพระจันทร์” จัดหนัก! โผล่ถือ PLANB มูลค่ากว่า 300 ล้าน สวนทางกองทุนลดพอร์ตเพียบ
CK-STECON เด่นสุดกลุ่มก่อสร้าง โบรกฯ คาดได้งานรถไฟฟ้าสีแดงต่อขยาย หนุนอัพไซด์ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 0.3 บาท
CME สะดุดซื้อขาย 10 ชั่วโมง กระตุกทองดีดแรง! ทองไทยบวก 550 บาท Shining Gold ชี้เทคนิคเปลี่ยนขาขึ้น