จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : DTCENT ปี 66 รายได้เติบโตโดดเด่น เตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์ “Mobile App”


22 กุมภาพันธ์ 2566
การเติบโตของธุรกิจขนส่งที่ยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง  ส่งผลดีต่อบริการอุปกรณ์ติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) ของบริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) ที่ผู้บริหารมั่นใจรายได้โตตามเป้าหมาย เตรียมขยายฐานลูกค้า เพิ่มผลิตภัณฑ์ “Mobile App”

รายงานพิเศษ DTCENT 220223.jpg

ต้องยอมรับว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาธุรกิจขนส่งพัสดุเป็นหนึ่งในธุรกิจบริการที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทและรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เน้นช่องทางการกระจายสินค้าไปถึงผู้บริโภคได้เร็ว 

โดยปี 2563-2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  หนุนให้ธุรกิจขนส่งพัสดุเติบโตสูงกว่า 30% มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาทต่อปี  และมีผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาลงทุนในตลาดธุรกิจขนส่งพัสดุ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น สะท้อนได้จากมูลค่าตลาด E-Commerce ด้านการค้าปลีกและค้าส่งในปี 2564 ที่เติบโตกว่า 16%

ส่วนปี 2565 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งพัสดุยังคงมีแนวโน้มเติบโตดี มีมูลค่าในตลาดราว 9.6 หมื่นล้านบาท จากการที่ผู้คนมีความคุ้นชินกับการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์  

ซึ่ง ttb analytics คาดว่า ในปี 2566 นี้ ธุรกิจขนส่งพัสดุจะมีมูลค่าถึง 1.15 แสนล้านบาท เติบโต 18% ตามการเติบโตของตลาด E-Commerce ที่เติบโตราว 11% แต่อาจไม่เติบโตสูงเท่าช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากเมื่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายมากขึ้น ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อสินค้าจากช่องทางต่าง ๆ

ธุรกิจขนส่งที่ขยายตัวดีขึ้นส่งผลดีต่อบริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) ที่ทำธุรกิจออกแบบ วิจัย พัฒนา จัดจำหน่าย และให้บริการอุปกรณ์ติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) และพัฒนาระบบไอโอที (IoT Solution) และ Artificial Intelligence (AI) ครบวงจร รวมถึงวิจัยและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เพื่อการบริหารขนส่งและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ซึ่ง “ทศพล คุณะเพิ่มศิริ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่  ระบุว่า  หลังจากที่บริษัทฯเข้าระดมทุนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา เงินระดมทุนที่ได้ 872.30 ล้านบาท ช่วยสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้น เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ จึงประเมินปีนี้รายได้จะขยายตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 900 ล้านบาท จากภาพรวมอุตสาหกรรมที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับขนส่งและโลจิสติกส์

อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายสร้างฐานตลาดลูกค้าเพิ่มเติมได้แก่ Mobile Application Tracking มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ต่างๆ จะช่วยให้ภาพรวมอัตรากำไรดีขึ้นจากปีที่ผ่านมามาด้วย ทั้งนี้งบการเงินงวด 9 เดือนปี 2565 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 50.59%

ขณะที่งบลงทุนรวมปีนี้อยู่ที่ 300-400 ล้านบาท โดยหลักเพื่อเข้าลงทุนในกิจการอื่นๆ หรือร่วมลงทุนกิจการที่สามารถต่อยอดธุรกิจได้ ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร 3-4 ราย คาดจะมีความชัดเจนราวครึ่งหลังปีนี้อย่างน้อย 1 ราย ส่วนการลงทุนอื่นๆ ได้แก่ ศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะด้วยดาวเทียม, ศูนย์อบรมพนักงานขับรถยนต์ เป็นต้น

"ปีนี้ผมยังเชื่อว่ารายได้จะเติบโต เป้าหมาย 900 ล้านบาท เป็นเป้าหมายที่ยังไม่ได้รวมเรื่องของดีลเข้าลงทุนกับพันธมิตรที่จะทำให้ผลประกอบการเราก้าวกระโดดได้มากขึ้นไปอีก" นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ กล่าว

ขณะที่บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 จะอยู่ที่ 34 ล้านบาท เติบโต 132.70% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 62% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการขายและให้บริการ GPS Tracking และ MDVR ยังเติบโตต่อเนื่อง คาดทั้งปี 65 รายงานกำไรสุทธิ 86.8 ล้านบาท ขยายตัว 12.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน  

ส่วนแนวโน้มปี 66-67 รายได้จะอยู่ที่ 1,013.02 ล้านบาท เติบโต 42.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 1,144.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน  โดยรายได้ขายเติบโตโดดเด่นจากโครงการและงาน IoT ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้คาดกำไรปี 66-67 จะอยู่ที่ 157.2 ล้านบาท เติบโต 81%  จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 201.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ แนะนำราคาเป้าหมายปี 66 อยู่ที่ 3.24 บาท