จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : “เปิดประเทศ- สังคมผู้สูงอายุ-โควิด” หนุน “ร้านขายยา”โตต่อเนื่อง


01 ธันวาคม 2565

ธุรกิจ “โรงพยาบาลและร้านขายยา” เป็นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากโควิด19 ทำให้ประชาชนใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น และประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่ปกติจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพมากกว่าช่วงวัยอื่น ทำให้ผู้บริหาร บมจ.เฮลท์ลีด (HL) มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตมากกว่า 20%

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ และจากการระบาดของโควิด19 ในช่วงที่ผ่านมา โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ระบุว่า ในกลุ่มของ Health & Wellness นับตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมา หลังจากที่ภาครัฐผ่อนคลายเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยได้ รวมถึงแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายในระบบประกันสังคมที่อยู่กับโรงพยาบาลเอกชน จำนวนกว่า 9.6 แสนคน ทำให้รายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในตลาดชาวต่างชาติฟื้นตัวขึ้น และคาดการณ์ว่าจากปัจจัยต่าง ๆ จะทำให้ในปี 2566 รายได้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนโดยภาพรวม จะเติบโตได้ 8-10%

ส่วนสถานการณ์ยาแผนปัจจุบัน วิจัยกรุงศรี วิเคราะห์ แนวโน้มปี 2565-2567 โดยระบุว่า มูลค่าจำหน่ายยาในประเทศคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 3.5-4.5% ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นจาก

(1) การเจ็บป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้สูงอายุโดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่จำเป็นต้องพึ่งพายานำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาแพง

(2) การเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประชาชน ทำให้ความต้องการบริโภคยาชื่อสามัญจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และ

(3) กระแสใส่ใจสุขภาพมากขึ้นหลังเผชิญโรค COVID-19 ดังนั้น จึงมีแนวโน้มที่ผู้ประกอบการจะขยายการลงทุนเพิ่มเพื่อรองรับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น

ซึ่งหากนึกถึงร้านขายยาที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ต้องคิดถึง บมจ.เฮลท์ลีด (HL) ที่ประกอบธุรกิจโดยการลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยปัจจุบันลงทุนในธุรกิจร้านขายยา จำหน่ายยา เวชภัณฑ์ เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อุปกรณ์การแพทย์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ และธุรกิจคิดค้น และพัฒนาร่วมกับทีมวิจัยภายนอก รวมทั้งว่าจ้างผู้ผลิต เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ ผลิตภัณฑ์สลายกลิ่น และผลิตภัณฑ์หน้ากาก เป็นต้น

ซึ่งธุรกิจร้านขายยา ยอดขายจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ทำให้การขยายสาขาไปในพื้นที่ที่มีศักยภาพจึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น สอดคล้องกับทิศทางการทำธุรกิจของ HL โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล” ระบุช่วงโค้งสุดท้ายของปี 65 บริษัทจะเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดเพิ่มอีก 3 สาขาในเดือน ธ.ค.นี้ ทำให้ในสิ้นปีนี้จะมีสาขารวมทั้งหมด 36 สาขา

ส่งผลแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/65 น่าจะมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง เพราะจากเทรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพอนามัย ทำให้บริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,216 ล้านบาท และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

รวมทั้งการที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเภทสินค้าอุปกรณ์การแพทย์ และสินค้าเพื่อสุขภาพ สนับสนุนยอดขายทั้งจากสาขาเดิม และสาขาใหม่เติบโตได้อย่างคึกคัก

ทั้งนี้บริษัทประเมินทิศทางกลุ่มสินค้าทั้งยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมั่นใจยังคงมีดีมานด์สูง เนื่องจากปัจจุบันในประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ส่วนสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจอาหารเสริม และวิตามิน มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีเช่นกัน

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 65 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 84.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 57.53 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 1,142.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.22% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 912.74 ล้านบาท