บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ SUPER) ขอแจ้งให้ทราบว่า ตามที่ บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 5 จำกัด (“SEE5”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (“KT”) ในวงเงินรวม 2,025.9 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการงานออกแบบ จัดหาระบบ ก่อสร้าง ติดตั้ง และทดสอบระบบในรูปแบบ Engineering Procurement and Construction (EPC) และเดินระบบ สำหรับโครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชน เพื่อผลิตพลังงาน ด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช (“โครงการ”) การให้เงินกู้ดังกล่าว เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ครั้งที่ 1/2562 ประชุมเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 และ โดยโครงการได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเดินระบบเชิง พาณิชย์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 นั้น โดย KT มีการเบิกรับเงินกู้ตั้งแต่ วันที่ 5 มีนาคม 2562 ถึง วันที่ 5 ตุลาคม 2563 ซึ่งตามสัญญากำหนดให้ชำระคืนรายเดือน เป็นจำนวน 168 งวด นับจากวันที่เบิกเงินกู้งวดแรก
โดยที่ผ่านมา KT ได้มีการชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยในแต่ละงวดตามที่ได้ตกลง ไว้ในสัญญาเงินกู้ยืมด้วยดีเสมอมา แต่เนื่องจากการดำเนินโครงการดังกล่าวต้องหยุดดำเนินงานชั่วคราวเพื่อปรับปรุงโรงงานใน ระหว่างปี 2565 ทำให้เริ่มผิดนัดชำระหนี้ได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นงวดการชำระที่ 24 เป็นต้นมา ทั้งนี้ KT ได้ ทำหนังสือถึง SEE5 เพื่อขอผ่อนผันการจ่ายชำระหนี้ และ SEE5 ได้ส่งข้อเสนอการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับ KT ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับ การตอบรับเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว
ดังนั้น SEE5 จึงใช้สิทธิตามสัญญาเงินกู้ ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 เพื่อเป็นการเร่งรัดให้ ปฏิบัติตามสัญญาเงินกู้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทได้มีการรับรู้ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่า จะเกิดขึ้นสำหรับเงินให้กู้ยืมดังกล่าวแล้ว โดยพิจารณาจากจำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 และ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นจำนวน 4.63 ล้านบาท และ 19.63 ล้านบาท ตามลำดับ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของ SEE5 โดยหากโครงการดังกล่าวได้แก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วและกลับมาด าเนินโครงการตามปกติ SEE5 ก็จะได้รับการช าระหนี้ตามปกติ หากบริษัท และ SEE5 ได้ทราบถึง ความคืบหน้าทั้งในการพิจารณาของศาล และการกลับมาด าเนินโครงการของ KT แล้ว จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
โดยที่ผ่านมา KT ได้มีการชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยในแต่ละงวดตามที่ได้ตกลง ไว้ในสัญญาเงินกู้ยืมด้วยดีเสมอมา แต่เนื่องจากการดำเนินโครงการดังกล่าวต้องหยุดดำเนินงานชั่วคราวเพื่อปรับปรุงโรงงานใน ระหว่างปี 2565 ทำให้เริ่มผิดนัดชำระหนี้ได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นงวดการชำระที่ 24 เป็นต้นมา ทั้งนี้ KT ได้ ทำหนังสือถึง SEE5 เพื่อขอผ่อนผันการจ่ายชำระหนี้ และ SEE5 ได้ส่งข้อเสนอการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับ KT ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับ การตอบรับเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว
ดังนั้น SEE5 จึงใช้สิทธิตามสัญญาเงินกู้ ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 เพื่อเป็นการเร่งรัดให้ ปฏิบัติตามสัญญาเงินกู้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทได้มีการรับรู้ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่า จะเกิดขึ้นสำหรับเงินให้กู้ยืมดังกล่าวแล้ว โดยพิจารณาจากจำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 และ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นจำนวน 4.63 ล้านบาท และ 19.63 ล้านบาท ตามลำดับ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของ SEE5 โดยหากโครงการดังกล่าวได้แก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วและกลับมาด าเนินโครงการตามปกติ SEE5 ก็จะได้รับการช าระหนี้ตามปกติ หากบริษัท และ SEE5 ได้ทราบถึง ความคืบหน้าทั้งในการพิจารณาของศาล และการกลับมาด าเนินโครงการของ KT แล้ว จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
ที่เกี่ยวข้อง
