เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 12-04-23
12-04-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***สวัสดีวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้..เปิดมาอีกทีสัปดาห์หน้าเจอกัน 17 เมษาฯ เลยนะจ๊ะ เบาๆ สบายๆ เนอะไม่ต้องซีเรียส เริ่มจาก TACC ประกาศปิดดีลดีๆ ก่อนสงกรานต์ ด้วยการทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท เข้าลงทุนในธุรกิจ Health and Wellness ผ่านการเข้าซื้อการดำเนินการของ บริษัท บลัช บิวตี้ (ไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามที่ผลิตจากประเทศเกาหลี โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในบริษัทย่อยใหม่ในนาม บริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (HIP) ในสัดส่วน 89% ส่วนที่เหลือ 10% เป็นของผู้ถือหุ้นเดิม
***สำหรับผลิตภัณฑ์ความงามและอาหารเสริมแบรนด์ Bloss Natura ที่วางจำหน่ายในตลาด ปัจจุบันประกอบด้วย Body & Skin Supplement (Jeli) และ Skincare มีดาราชั้นนำของเมืองไทย "คิมเบอร์ลี่" เป็นพรีเซนเตอร์ สินค้า ครีมกันแดด จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/66 นี้เลยและในเบื้องต้นได้วางเป้าหมายในปี 2567 ว่าจะมียอดขายราว 100 ล้านบาท
***บิ๊กบอส "ชัชชวี วัฒนสุข" บอกว่าหลายปีที่ผ่านมา TACC พยายามเสาะแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ เพื่อสร้าง Next S Curve ในการเติบโตที่แข็งแกร่ง และยั่งยืนในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า นอกเหนือจากธุรกิจเครื่องดื่มที่เป็นจุดแข็งของบริษัทฯ และการลงทุนครั้งล่าสุดนี้เป็นการปูทางให้บริษัทก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจ Health and Wellness ครบวงจร และสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจได้
***ร้อนกว่าสภาพอากาศตอนนี้ก้อต้อง IHL ล่ะค่ะพี่น้องข๋าาาาา IHL เค้าฮอตจริงๆ รายงานข่าวแจ้งว่าตอนนี้ได้รับออเดอร์การผลิตเบาะหนังรถยนต์จากค่าย “Subaru” ในรุ่นพิเศษ “FORESTER GT” ส่งผลให้มีออเดอร์ผลิตเบาะหนังรถยนต์เพิ่มขึ้น ประกอบกับ ยอดจองรถยนต์ในงาน Bangkok International Motor Show 2023 ทั้ง โตโยต้า-ฮอนด้า-นิสสัน ขายดีเกินคาด แบบนี้ก้อเข้าทาง IHL เค้าล่ะ!!!
***"ป๋าองอาจ" บิ๊กบอสของ IHL เล่าถึงแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ว่ามีทิศทางที่ดี เนื่องจากธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ที่เป็นธุรกิจหลักของ IHL ได้รับออเดอร์ผลิตเบาะหนังรถยนต์จากค่าย Subaru เพิ่มอีก 1 ราย สะท้อนถึงศักยภาพการผลิตและส่งมอบสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และจากยอดจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ของค่ายพันธมิตรรายใหญ่มีการตอบรับที่ดีมาก ทำให้ IHL มีออเดอร์ในการผลิตเบาะหนังรถยนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่องและสามารถเดินเครื่องในการผลิตได้เต็มกำลังการผลิต
***นอกจากนี้ในส่วนของกลุ่มธุรกิจใหม่ของ IHL ก็เริ่มรับรู้รายได้เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์,ธุรกิจอาหารเสริมแบรนด์ “Chojen” (โชเจน) คอลลาเจน จากหนังวัว,ธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข ภายใต้แบรนด์ “MOMO & FRIENDS” และโดยเฉพาะธุรกิจฟอกหนังรองเท้า ตอนนี้มีลูกค้าเพิ่ม 2 ราย จากเดิมที่มีลูกค้าอยู่ 5 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าจากฝั่งทวีปอเมริกาและยุโรป โดยจะเริ่มผลิตออเดอร์ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ทันที และยังมีการเจรจาทางธุรกิจกับลูกค้าอีกหลายราย สรุปเรื่อง-ของ-เรื่อง คือทุกธุรกิจไปได้สวย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลงานของ IHL ในปีนี้กลับมาเติบโตได้ เมื่อเทียบกับก่อนช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
***ผ่านฉลุยค่ะสำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ของ TPLAS ผู้ถือหุ้นพร้อมใจอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมจำนวน 270 ล้านหุ้น มีกำหนด Record Date ในวันที่ 20 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566
***ส่วนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 นี้ของ TPLAS ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง "อภิรัตน์ ธีระรุจินนท์" ได้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตราว 8-10% จากปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ตลาดมีสัญญาณการเติบโตที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา จากนโยบายการเปิดประเทศ ขณะที่สถานการณ์ของโรค Covid-19 ผ่อนคลายทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งการบริโภคในประเทศก็มีทิศทางที่เป็นบวกส่งผลให้ Sentiment ของการค้าขายภายในประเทศที่ดีขึ้น
***ปิดท้ายวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องจากความชัดเจนในส่วนการเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ โดยนายกประยุทธ์ฯ ได้ประกาศยุบสภาแล้ว ขณะที่
กกต. กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค. 23 กูรูหุ้นจากค่าย KCS ระบุว่ารอบมีโอกาสที่จะเห็นภาพ Election Rally ช่วงคาบเกี่ยวก่อน – หลัง 5-6 เดือนระหว่างการเลือกตั้งที่ SET จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยผลตอบแทนช่วงเลือกตั้งย้อนหลัง 5 ครั้งในระดับราว 6-7% โดยมอง 3 องค์ประกอบ
1) SET Index มีValuation อยู่ในระดับน่าสนใจ
2) ประเทศไทยไม่มีการจัดตั้งเลือกตั้งทั่วไปมานาน
3)ความเสี่ยงที่การเลือกตั้งจะเผชิญปัญหาข้อข้ดแย้งเรื่องกฎเกณฑ์การจัดเลือกตั้งค่อนข้างต่ำ
*** อิงสถิติการเลือกตั้งรอบ 5 ครั้งหลังสุด อุตสาหกรรมที่มักให้ผลตอบแทนเป็นบวก ด้วยความเป็นไปได้สูงเกินกว่า 60% ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในกลุ่มอิงเศรษฐกิจภายใน
***กลุ่มที่ Outperform ก่อนการเลือกตั้ง 1 เดือนด้วยความน่าจะเป็น 100% คือ % กลุ่มบันเทิง (ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.05%)ความน่าจะเป็น 80% คือ กลุ่มโรงแรม (ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.28)กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.95%) ความน่าจะเป็น60% คือ กลุ่มธนาคาร (ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.73%) กลุ่มเช่าซื้อ(ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.99%)
***กลุ่มที่ Outperform หลังการเลือกตั้ง 1 เดือนด้วยความน่าจะเป็น 80% คือ กลุ่มโรงแรม (ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.47%), กลุ่มค้าปลีก (ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.7%) กลุ่มพลังงาน (ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.17%), กลุ่มสื่อสาร (ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.73%)
***กลุ่มที่ Outperform หลังการเลือกตั้ง 3 เดือนด้วยความน่าจะเป็น 80% คือ กลุ่มพลังงาน (ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.02%),กลุ่มค้าปลีก (ผลตอบแทนเฉลี่ย 6.1%) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์(ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.2%)
12-04-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***สวัสดีวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้..เปิดมาอีกทีสัปดาห์หน้าเจอกัน 17 เมษาฯ เลยนะจ๊ะ เบาๆ สบายๆ เนอะไม่ต้องซีเรียส เริ่มจาก TACC ประกาศปิดดีลดีๆ ก่อนสงกรานต์ ด้วยการทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท เข้าลงทุนในธุรกิจ Health and Wellness ผ่านการเข้าซื้อการดำเนินการของ บริษัท บลัช บิวตี้ (ไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามที่ผลิตจากประเทศเกาหลี โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในบริษัทย่อยใหม่ในนาม บริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (HIP) ในสัดส่วน 89% ส่วนที่เหลือ 10% เป็นของผู้ถือหุ้นเดิม
***สำหรับผลิตภัณฑ์ความงามและอาหารเสริมแบรนด์ Bloss Natura ที่วางจำหน่ายในตลาด ปัจจุบันประกอบด้วย Body & Skin Supplement (Jeli) และ Skincare มีดาราชั้นนำของเมืองไทย "คิมเบอร์ลี่" เป็นพรีเซนเตอร์ สินค้า ครีมกันแดด จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/66 นี้เลยและในเบื้องต้นได้วางเป้าหมายในปี 2567 ว่าจะมียอดขายราว 100 ล้านบาท
***บิ๊กบอส "ชัชชวี วัฒนสุข" บอกว่าหลายปีที่ผ่านมา TACC พยายามเสาะแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ เพื่อสร้าง Next S Curve ในการเติบโตที่แข็งแกร่ง และยั่งยืนในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า นอกเหนือจากธุรกิจเครื่องดื่มที่เป็นจุดแข็งของบริษัทฯ และการลงทุนครั้งล่าสุดนี้เป็นการปูทางให้บริษัทก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจ Health and Wellness ครบวงจร และสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจได้
***ร้อนกว่าสภาพอากาศตอนนี้ก้อต้อง IHL ล่ะค่ะพี่น้องข๋าาาาา IHL เค้าฮอตจริงๆ รายงานข่าวแจ้งว่าตอนนี้ได้รับออเดอร์การผลิตเบาะหนังรถยนต์จากค่าย “Subaru” ในรุ่นพิเศษ “FORESTER GT” ส่งผลให้มีออเดอร์ผลิตเบาะหนังรถยนต์เพิ่มขึ้น ประกอบกับ ยอดจองรถยนต์ในงาน Bangkok International Motor Show 2023 ทั้ง โตโยต้า-ฮอนด้า-นิสสัน ขายดีเกินคาด แบบนี้ก้อเข้าทาง IHL เค้าล่ะ!!!
***"ป๋าองอาจ" บิ๊กบอสของ IHL เล่าถึงแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ว่ามีทิศทางที่ดี เนื่องจากธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ที่เป็นธุรกิจหลักของ IHL ได้รับออเดอร์ผลิตเบาะหนังรถยนต์จากค่าย Subaru เพิ่มอีก 1 ราย สะท้อนถึงศักยภาพการผลิตและส่งมอบสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และจากยอดจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ของค่ายพันธมิตรรายใหญ่มีการตอบรับที่ดีมาก ทำให้ IHL มีออเดอร์ในการผลิตเบาะหนังรถยนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่องและสามารถเดินเครื่องในการผลิตได้เต็มกำลังการผลิต
***นอกจากนี้ในส่วนของกลุ่มธุรกิจใหม่ของ IHL ก็เริ่มรับรู้รายได้เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์,ธุรกิจอาหารเสริมแบรนด์ “Chojen” (โชเจน) คอลลาเจน จากหนังวัว,ธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข ภายใต้แบรนด์ “MOMO & FRIENDS” และโดยเฉพาะธุรกิจฟอกหนังรองเท้า ตอนนี้มีลูกค้าเพิ่ม 2 ราย จากเดิมที่มีลูกค้าอยู่ 5 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าจากฝั่งทวีปอเมริกาและยุโรป โดยจะเริ่มผลิตออเดอร์ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ทันที และยังมีการเจรจาทางธุรกิจกับลูกค้าอีกหลายราย สรุปเรื่อง-ของ-เรื่อง คือทุกธุรกิจไปได้สวย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลงานของ IHL ในปีนี้กลับมาเติบโตได้ เมื่อเทียบกับก่อนช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
***ผ่านฉลุยค่ะสำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ของ TPLAS ผู้ถือหุ้นพร้อมใจอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมจำนวน 270 ล้านหุ้น มีกำหนด Record Date ในวันที่ 20 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566
***ส่วนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 นี้ของ TPLAS ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง "อภิรัตน์ ธีระรุจินนท์" ได้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตราว 8-10% จากปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ตลาดมีสัญญาณการเติบโตที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา จากนโยบายการเปิดประเทศ ขณะที่สถานการณ์ของโรค Covid-19 ผ่อนคลายทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งการบริโภคในประเทศก็มีทิศทางที่เป็นบวกส่งผลให้ Sentiment ของการค้าขายภายในประเทศที่ดีขึ้น
***ปิดท้ายวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องจากความชัดเจนในส่วนการเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ โดยนายกประยุทธ์ฯ ได้ประกาศยุบสภาแล้ว ขณะที่
กกต. กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค. 23 กูรูหุ้นจากค่าย KCS ระบุว่ารอบมีโอกาสที่จะเห็นภาพ Election Rally ช่วงคาบเกี่ยวก่อน – หลัง 5-6 เดือนระหว่างการเลือกตั้งที่ SET จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยผลตอบแทนช่วงเลือกตั้งย้อนหลัง 5 ครั้งในระดับราว 6-7% โดยมอง 3 องค์ประกอบ
1) SET Index มีValuation อยู่ในระดับน่าสนใจ
2) ประเทศไทยไม่มีการจัดตั้งเลือกตั้งทั่วไปมานาน
3)ความเสี่ยงที่การเลือกตั้งจะเผชิญปัญหาข้อข้ดแย้งเรื่องกฎเกณฑ์การจัดเลือกตั้งค่อนข้างต่ำ
*** อิงสถิติการเลือกตั้งรอบ 5 ครั้งหลังสุด อุตสาหกรรมที่มักให้ผลตอบแทนเป็นบวก ด้วยความเป็นไปได้สูงเกินกว่า 60% ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในกลุ่มอิงเศรษฐกิจภายใน
***กลุ่มที่ Outperform ก่อนการเลือกตั้ง 1 เดือนด้วยความน่าจะเป็น 100% คือ % กลุ่มบันเทิง (ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.05%)ความน่าจะเป็น 80% คือ กลุ่มโรงแรม (ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.28)กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.95%) ความน่าจะเป็น60% คือ กลุ่มธนาคาร (ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.73%) กลุ่มเช่าซื้อ(ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.99%)
***กลุ่มที่ Outperform หลังการเลือกตั้ง 1 เดือนด้วยความน่าจะเป็น 80% คือ กลุ่มโรงแรม (ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.47%), กลุ่มค้าปลีก (ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.7%) กลุ่มพลังงาน (ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.17%), กลุ่มสื่อสาร (ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.73%)
***กลุ่มที่ Outperform หลังการเลือกตั้ง 3 เดือนด้วยความน่าจะเป็น 80% คือ กลุ่มพลังงาน (ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.02%),กลุ่มค้าปลีก (ผลตอบแทนเฉลี่ย 6.1%) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์(ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.2%)
ที่เกี่ยวข้อง
