เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 29-03-23
29-03-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***สัปดาห์หน้าก้อจะก้าวเข้าสู่ไตรมาส 2 ของปีนี้แล้ว บล.ทรีนีตี้ ทำงานว่องไว ออกมาประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นเพื่อเป็นไกด์นำทางให้นักลงทุนเรียบร้อย โดยคาดว่าตลาดหุ้นไทยของเราจะปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ดี รับปัจจัยผลักดันทางด้านสภาพคล่องที่มีที่มาส่วนหนึ่งจากการเติมเต็มสภาพคล่องในระบบการเงินของสหรัฐฯและยุโรปที่ผ่านมา มองมาตรการที่สำคัญได้แก่ USD Liquidity Swaps ทั้งนี้ได้ประเมินว่านับตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของมาตรการดังกล่าว เงิน USD มีแนวโน้มจะทรงตัวอ่อนค่าอยู่ในระดับต่ำต่อไป เป็นอานิสงส์ต่อสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวม รวมถึงสกุลเงินต่างๆในประเทศเกิดใหม่รวมถึงไทยด้วย
***นอกจากนี้ยังมีปัจจัยดึงดูดที่สำคัญคือสีสันทางด้านการเลือกตั้งที่จะเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อ Sentiment ในตลาดมากขึ้น นโยบายต่างๆ ที่หลายพรรคการเมืองนำมาใช้ในการหาเสียงอยู่ ณ ปัจจุบัน นำมาสู่ความคาดหวังทางด้านคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งในทางทฤษฎีมักนำมาสู่การบริโภคจับจ่ายใช้สอยที่เกิดขึ้นก่อนในปัจจุบันด้วยเช่นกัน (หอการค้าไทยประเมินว่าจะมีเงินสะพัดในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ราว 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมได้ราว 1.0-1.2 แสนล้านบาท ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากเดิมได้ประมาณ 0.5-0.7%)
***ส่วนหุ้นแนะนำที่ บล.ทรีนีตี้ เลือกมานั้น ส่วนใหญ่ก็กระจุกอยู่ในกลุ่ม Domestic play เหล่านี้ด้วยเช่นกัน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆนั่นก็คือ กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ใน SET100 และอยู่นอกเหนือ SET100 (Non-SET100) ซึ่งมีรายชื่อดังต่อไปนี้
รายชื่อหุ้นแนะนำในดัชนี SET100 ได้แก่ ADVANC, BBL, BGRIM, BH, CBG, CENTEL, CRC, DOHOME, PTG, SABUY
รายชื่อหุ้นแนะนำในดัชนี Non-SET100 ได้แก่ BVG, BWG, ETC, HTC, MENA, OTO-W1, PR9, SAPPE, SFLEX, SNNP
สำหรับเหตุผลสนับสนุนหุ้นในแต่ละบริษัท สามารถติดตามได้ในตารางด้านท้าย
***จากสถิติในอดีตนับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมาพบว่า ตลาดหุ้นไทยมักให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงสองสัปดาห์ก่อนหน้าการเลือกตั้งไปจนถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ซึ่งได้ให้คำจำกัดความในช่วงเวลานี้ว่า เป็นช่วงของปรากฏการณ์ ‘Election rally’ ที่มีค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 6% (Figure 1) โดยมีระดับ Maximum และ Minimum return อยู่ที่ +16.5% และ +0.1% ตามลำดับ หรือพูดง่ายๆ ก็คือว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ SET Index ไม่เคยให้ผลตอบแทนติดลบเลยแม้แต่ครั้งเดียว
***มาแล้วข่าวที่เจ๊รอคอยและอยากเห็นความชัดเจนที่สุดสำหรับ MENA ล่าสุด!!!! ประกาศความสำเร็จในการจับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ตะวันแดง โลจีสติกส์ จำกัด (TWD) บริษัทในกลุ่ม "คาราบาวกรุ๊ป (CBG)" จัดตั้งบริษัทร่วมทุน "ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์" หรือ TDM เปิดเส้นทางให้บริการงานขนส่งกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับ CJ MORE ทั่วไทย คาดเริ่มให้บริการภายในไตรมาส 2/2566 จากนี้เดินหน้าเต็มพิกัด โดยเฉพาะธุรกิจบริการขนส่งกระจายสินค้าอุปโภคบริโภค ประเมินดันรายได้ปีนี้โตทะลุเป้า 15%
***ซีอีโอหญิงคนเก่ง “สุวรรณา ขจรวุฒิเดช” บอกว่า“การตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้ เป็นการจับมือร่วมกันแบบ win-win โดย MENA มีจุดเด่นเรื่องความชำนาญและประสบการณ์ในการบริหารจัดการธุรกิจโลจีสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ TWD มีฐานลูกค้าทั้งของ TWD เองและของบริษัทในเครือ ซึ่งจะช่วยต่อยอดโอกาสทางธุรกิจไปยังลูกค้าที่หลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น ช่วยเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ ในขณะเดียวกันช่วยให้ต้นทุนค่าขนส่งทั้งเครือมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
***พูดถึงผู้หญิงเก่งจะขาดคนนี้ไปไม่ด๊ายยยยย!!!! บิ๊กบอสคนสวยของ INET "มรกต กุลธรรมโยธิน" ที่ผ่านมาค่อนข้างเงียบ แต่ล่าสุดมีสายด่วน!!!แจ้งว่ามีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาเป็นที่สุด!!!มาครั้งนี้เปิดตัวในฐานะผู้นำด้านการส่งเสริมและบ่มเพาะนวัตกรรมภายในประเทศ ตอนนี้กำลังเตรียมที่จะ Spin Off “วัน อิเล็กทรอนิกส์ บิลลิ่ง-ไอเน็กซ์ บรอดแบนด์” เข้าระดมทุนในตลาด LiVE Exchange และวางแผนเข้าตลาด mai ในปี 67-68 พร้อมเดินหน้าลุยตลาด Local Platform เพื่อทำ Digital Transformation ให้หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน หนุนผลงานในช่วง 1-3 ปี ข้างหน้า ออลไทม์ไฮต่อเนื่อง
***มีรายงานว่าที่ผ่านมา INET ได้ร่วมลงทุนและสนับสนุนนวัตกรรมผ่านบริษัทร่วมทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจด้าน Cloud Service และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและกำหนดว่าต้องถือหุ้นไม่น้อยกว่า 30% ปัจจุบันมีการร่วมลงทุนถึง 48 บริษัท ซึ่งล้วนสร้างผลงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นอีกแรงหนุนที่ช่วยดันผลประกอบการของ INET ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง นอกจากนี้สำหรับบริษัทที่มีศักยภาพก้อจะ Spin Off ออกไปเพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและเป็นกำลังเสริมหลักให้ INET ในอนาคต
***พูดถึงผลประกอบการในรอบปี 2565 ที่ผ่านมา INET ทำได้ยอดเยี่ยม!!มีกำไรสุทธิ 201.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนและมีรายได้จากการขายและให้บริการ 2,044.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,865.85 ล้านบาท
***นอกจากนี้มีอีกไฮไลท์ที่สำคัญมากๆ เป็นสิ่งที่เจ๊จิ๋มอยากให้ทุกคนจำให้แม่น บอร์ด INET มีมติคลอด INET-W2 โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่า ในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น ที่ราคาการใช้สิทธิ 4.5 บาท ต่อ 1 หุ้น โดย INET-W2 ดังกล่าวมีอายุ 6 เดือน 10 วัน กำหนดวัน Record Date ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566
***ย๊างงงงงง-เรื่องดีๆ ของ INET ยังไม่หมด!!! บอร์ดเค้ายังอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.106100000005 บาท โดยคิดจากจำนวนหุ้น 500,041,575 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 53,054,411.11 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566
***มาถึงผู้หญิงสวย-เก่ง-วิชั่นไกลอีกคน ที่ทำงานหนักไม่แพ้คนอื่นๆ แต่ความสวยไม่เคยลดลงเลย "คุณเอ๋ย-ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง" บิ๊กบอส WP
คราวนี้มาแง่มๆ ภาพรวมธุรกิจไตรมาส 1/2566 ให้ฟังว่า..ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับผลดีจากราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือนปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งปริมาณขายก๊าซพุ่ง ดันยอดขายในประเทศโตแร๊งงงงงงง โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือน และ Auto gas ส่วนปริมาณการส่งออกคึกคัก การลงทุนในธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปสัญญาณดี
***สำหรับปีนี้ WP มั่นใจว่ายอดขายก๊าซ LPG ทั้งในและต่างประเทศโตเข้าเป้า 800,000 ตัน ขณะที่รายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลุยขยายลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงานในอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ของโลก เพื่อผลักดันธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพื่อผู้ถือหุ้นทุกท่านค่าาาาา
***ม้ามืดนอกสายตา..ที่เจ๊จิ๋มเคยบอกแล้วว่าอย่าปล่อยให้คลาดสายตา!!!บมจ.เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น หรือ TPS ปีที่แล้วสร้างผลงานโดดเด่นและน่าประทับใจสุดๆ มีกำไรสุทธิ 75.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 95.73% จากปีก่อนที่ทำไว้ 38.74 ล้านบาท ส่วนปีนี้ "ขุ่นพี่บุญสม"(ของเจ๊) ลั่น!!! โตสนั่น! จะสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง จากการเข้าประมูลงานของบริษัทย่อย "เดอะวิน เทเลคอม" โดยเฉพาะงานภาครัฐต่อเนื่อง พร้อมลุยธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ครบวงจร
***บิ๊กบอส TPS บอกกับเจ๊ว่าตอนนี้มีงานตุนไว้ในมือแบบแน่นๆ แล้วกว่า 1,422 ล้านบาท และในปีนี้ TPS ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ ทั้งงานติดตั้ง วางระบบภายในอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการส่งลูก "เดอะวิน เทเลคอม" เข้าประมูลงานใหม่ โดยเฉพาะงานของภาครัฐขนาดใหญ่ ในโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) โครงการด้านสาธารณูปโภคอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าร่วมประมูลงานและรอประกาศผลอีกหลายโครงการ พร้อมกันนี้ยังรุกธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้อย่างครบวงจรด้วย เป็นการต่อยอดจากธุรกิจเดิม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าเดิม และหาลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
29-03-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***สัปดาห์หน้าก้อจะก้าวเข้าสู่ไตรมาส 2 ของปีนี้แล้ว บล.ทรีนีตี้ ทำงานว่องไว ออกมาประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นเพื่อเป็นไกด์นำทางให้นักลงทุนเรียบร้อย โดยคาดว่าตลาดหุ้นไทยของเราจะปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ดี รับปัจจัยผลักดันทางด้านสภาพคล่องที่มีที่มาส่วนหนึ่งจากการเติมเต็มสภาพคล่องในระบบการเงินของสหรัฐฯและยุโรปที่ผ่านมา มองมาตรการที่สำคัญได้แก่ USD Liquidity Swaps ทั้งนี้ได้ประเมินว่านับตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของมาตรการดังกล่าว เงิน USD มีแนวโน้มจะทรงตัวอ่อนค่าอยู่ในระดับต่ำต่อไป เป็นอานิสงส์ต่อสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวม รวมถึงสกุลเงินต่างๆในประเทศเกิดใหม่รวมถึงไทยด้วย
***นอกจากนี้ยังมีปัจจัยดึงดูดที่สำคัญคือสีสันทางด้านการเลือกตั้งที่จะเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อ Sentiment ในตลาดมากขึ้น นโยบายต่างๆ ที่หลายพรรคการเมืองนำมาใช้ในการหาเสียงอยู่ ณ ปัจจุบัน นำมาสู่ความคาดหวังทางด้านคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งในทางทฤษฎีมักนำมาสู่การบริโภคจับจ่ายใช้สอยที่เกิดขึ้นก่อนในปัจจุบันด้วยเช่นกัน (หอการค้าไทยประเมินว่าจะมีเงินสะพัดในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ราว 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมได้ราว 1.0-1.2 แสนล้านบาท ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากเดิมได้ประมาณ 0.5-0.7%)
***ส่วนหุ้นแนะนำที่ บล.ทรีนีตี้ เลือกมานั้น ส่วนใหญ่ก็กระจุกอยู่ในกลุ่ม Domestic play เหล่านี้ด้วยเช่นกัน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆนั่นก็คือ กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ใน SET100 และอยู่นอกเหนือ SET100 (Non-SET100) ซึ่งมีรายชื่อดังต่อไปนี้
รายชื่อหุ้นแนะนำในดัชนี SET100 ได้แก่ ADVANC, BBL, BGRIM, BH, CBG, CENTEL, CRC, DOHOME, PTG, SABUY
รายชื่อหุ้นแนะนำในดัชนี Non-SET100 ได้แก่ BVG, BWG, ETC, HTC, MENA, OTO-W1, PR9, SAPPE, SFLEX, SNNP
สำหรับเหตุผลสนับสนุนหุ้นในแต่ละบริษัท สามารถติดตามได้ในตารางด้านท้าย
***จากสถิติในอดีตนับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมาพบว่า ตลาดหุ้นไทยมักให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงสองสัปดาห์ก่อนหน้าการเลือกตั้งไปจนถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ซึ่งได้ให้คำจำกัดความในช่วงเวลานี้ว่า เป็นช่วงของปรากฏการณ์ ‘Election rally’ ที่มีค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 6% (Figure 1) โดยมีระดับ Maximum และ Minimum return อยู่ที่ +16.5% และ +0.1% ตามลำดับ หรือพูดง่ายๆ ก็คือว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ SET Index ไม่เคยให้ผลตอบแทนติดลบเลยแม้แต่ครั้งเดียว
***มาแล้วข่าวที่เจ๊รอคอยและอยากเห็นความชัดเจนที่สุดสำหรับ MENA ล่าสุด!!!! ประกาศความสำเร็จในการจับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ตะวันแดง โลจีสติกส์ จำกัด (TWD) บริษัทในกลุ่ม "คาราบาวกรุ๊ป (CBG)" จัดตั้งบริษัทร่วมทุน "ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์" หรือ TDM เปิดเส้นทางให้บริการงานขนส่งกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับ CJ MORE ทั่วไทย คาดเริ่มให้บริการภายในไตรมาส 2/2566 จากนี้เดินหน้าเต็มพิกัด โดยเฉพาะธุรกิจบริการขนส่งกระจายสินค้าอุปโภคบริโภค ประเมินดันรายได้ปีนี้โตทะลุเป้า 15%
***ซีอีโอหญิงคนเก่ง “สุวรรณา ขจรวุฒิเดช” บอกว่า“การตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้ เป็นการจับมือร่วมกันแบบ win-win โดย MENA มีจุดเด่นเรื่องความชำนาญและประสบการณ์ในการบริหารจัดการธุรกิจโลจีสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ TWD มีฐานลูกค้าทั้งของ TWD เองและของบริษัทในเครือ ซึ่งจะช่วยต่อยอดโอกาสทางธุรกิจไปยังลูกค้าที่หลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น ช่วยเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ ในขณะเดียวกันช่วยให้ต้นทุนค่าขนส่งทั้งเครือมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
***พูดถึงผู้หญิงเก่งจะขาดคนนี้ไปไม่ด๊ายยยยย!!!! บิ๊กบอสคนสวยของ INET "มรกต กุลธรรมโยธิน" ที่ผ่านมาค่อนข้างเงียบ แต่ล่าสุดมีสายด่วน!!!แจ้งว่ามีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาเป็นที่สุด!!!มาครั้งนี้เปิดตัวในฐานะผู้นำด้านการส่งเสริมและบ่มเพาะนวัตกรรมภายในประเทศ ตอนนี้กำลังเตรียมที่จะ Spin Off “วัน อิเล็กทรอนิกส์ บิลลิ่ง-ไอเน็กซ์ บรอดแบนด์” เข้าระดมทุนในตลาด LiVE Exchange และวางแผนเข้าตลาด mai ในปี 67-68 พร้อมเดินหน้าลุยตลาด Local Platform เพื่อทำ Digital Transformation ให้หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน หนุนผลงานในช่วง 1-3 ปี ข้างหน้า ออลไทม์ไฮต่อเนื่อง
***มีรายงานว่าที่ผ่านมา INET ได้ร่วมลงทุนและสนับสนุนนวัตกรรมผ่านบริษัทร่วมทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจด้าน Cloud Service และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและกำหนดว่าต้องถือหุ้นไม่น้อยกว่า 30% ปัจจุบันมีการร่วมลงทุนถึง 48 บริษัท ซึ่งล้วนสร้างผลงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นอีกแรงหนุนที่ช่วยดันผลประกอบการของ INET ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง นอกจากนี้สำหรับบริษัทที่มีศักยภาพก้อจะ Spin Off ออกไปเพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและเป็นกำลังเสริมหลักให้ INET ในอนาคต
***พูดถึงผลประกอบการในรอบปี 2565 ที่ผ่านมา INET ทำได้ยอดเยี่ยม!!มีกำไรสุทธิ 201.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนและมีรายได้จากการขายและให้บริการ 2,044.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,865.85 ล้านบาท
***นอกจากนี้มีอีกไฮไลท์ที่สำคัญมากๆ เป็นสิ่งที่เจ๊จิ๋มอยากให้ทุกคนจำให้แม่น บอร์ด INET มีมติคลอด INET-W2 โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่า ในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น ที่ราคาการใช้สิทธิ 4.5 บาท ต่อ 1 หุ้น โดย INET-W2 ดังกล่าวมีอายุ 6 เดือน 10 วัน กำหนดวัน Record Date ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566
***ย๊างงงงงง-เรื่องดีๆ ของ INET ยังไม่หมด!!! บอร์ดเค้ายังอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.106100000005 บาท โดยคิดจากจำนวนหุ้น 500,041,575 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 53,054,411.11 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566
***มาถึงผู้หญิงสวย-เก่ง-วิชั่นไกลอีกคน ที่ทำงานหนักไม่แพ้คนอื่นๆ แต่ความสวยไม่เคยลดลงเลย "คุณเอ๋ย-ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง" บิ๊กบอส WP
คราวนี้มาแง่มๆ ภาพรวมธุรกิจไตรมาส 1/2566 ให้ฟังว่า..ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับผลดีจากราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือนปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งปริมาณขายก๊าซพุ่ง ดันยอดขายในประเทศโตแร๊งงงงงงง โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือน และ Auto gas ส่วนปริมาณการส่งออกคึกคัก การลงทุนในธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปสัญญาณดี
***สำหรับปีนี้ WP มั่นใจว่ายอดขายก๊าซ LPG ทั้งในและต่างประเทศโตเข้าเป้า 800,000 ตัน ขณะที่รายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลุยขยายลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงานในอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ของโลก เพื่อผลักดันธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพื่อผู้ถือหุ้นทุกท่านค่าาาาา
***ม้ามืดนอกสายตา..ที่เจ๊จิ๋มเคยบอกแล้วว่าอย่าปล่อยให้คลาดสายตา!!!บมจ.เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น หรือ TPS ปีที่แล้วสร้างผลงานโดดเด่นและน่าประทับใจสุดๆ มีกำไรสุทธิ 75.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 95.73% จากปีก่อนที่ทำไว้ 38.74 ล้านบาท ส่วนปีนี้ "ขุ่นพี่บุญสม"(ของเจ๊) ลั่น!!! โตสนั่น! จะสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง จากการเข้าประมูลงานของบริษัทย่อย "เดอะวิน เทเลคอม" โดยเฉพาะงานภาครัฐต่อเนื่อง พร้อมลุยธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ครบวงจร
***บิ๊กบอส TPS บอกกับเจ๊ว่าตอนนี้มีงานตุนไว้ในมือแบบแน่นๆ แล้วกว่า 1,422 ล้านบาท และในปีนี้ TPS ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ ทั้งงานติดตั้ง วางระบบภายในอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการส่งลูก "เดอะวิน เทเลคอม" เข้าประมูลงานใหม่ โดยเฉพาะงานของภาครัฐขนาดใหญ่ ในโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) โครงการด้านสาธารณูปโภคอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าร่วมประมูลงานและรอประกาศผลอีกหลายโครงการ พร้อมกันนี้ยังรุกธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้อย่างครบวงจรด้วย เป็นการต่อยอดจากธุรกิจเดิม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าเดิม และหาลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
ที่เกี่ยวข้อง
