กระดานข่าว

JSP ลุยจดอนุสิทธิบัตรน้ำมันงาดำรำข้าวหลังทำยอดขายอันดับ 1 ของบริษัท


30 ธันวาคม 2568

photo1.jpg

นายพิษณุ แดงประเสริฐ
  รองประธานกรรมการบริหารสายงานขายและการตลาด บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JSP) ในปี 2568 JSP สามารถทำยอดขายเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมันงาดำรำข้าวแบรนด์ “สุภาพโอสถ” หรือที่รู้จักกันในชื่อที่ติดตลาด “น้ำมันแม่อี๊ดดวงใจมียอดขายเป็นอันดับ 1 ของบริษัทเมื่อเทียบจากเป้าหมายยอดขายรวมที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท  ล่าสุด JSP จึงได้จดอนุสิทธิบัตร สูตรของน้ำมันงาดำและน้ำมันรำข้าวที่ผสมกันด้วยในอัตราที่เหมาะสมซึ่งเป็นสูตรที่ใช้ระยะเวลาในการทำวิจัย 1 ปี โดยเป็นสูตรน้ำมันงาดำและรำข้าวที่รับมาจากเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชุน เหมาะสมสําหรับช่วยดูแลสุขภาพกับผู้บริโภค โดยนําไปทดสอบผลในห้องปฏิบัติการแล้วพบว่าช่วยลดการอักเสบของข้อและรูมาตอยด์ ในเซลล์กระดูกอ่อนที่ถูกกระตุ้นด้วยทีเอ็นเอฟ-แอลฟา (TNF-α) (Tumor necrosis factoralpha) และ ช่วยลดความดันในเส้นเลือด (ทดสอบการยับยั้งของเอนไซม์เอซีอี 50 %)

ทั้งนี้ JSP มีนโยบายในการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนในการเป็นแหล่งวัตถุดิบ รวมถึงส่งเสริมให้วิสาหกิจมาใช้บริการห้องแล็ป ของ JSP ในการทดลองและทำการวิจัย เนื่องจากปัจจุบันพบว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2568 คนไทยยื่นจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรด้านพืชสมุนไพรจำนวนมากแต่จดได้จริง 16 ฉบับ  มีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ยังคงเน้นไปที่ อาหารและเครื่องดื่ม และ การพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือก ( Future Food ) อย่างไรก็ดีจำนวนสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรที่จดได้ยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างชาติที่จดได้  296 ฉบับ ซึ่งการจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรนี้สะท้อนถึงความพยายามในการนำพืชสมุนไพรมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดึงดูดการลงทุน ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี และสร้างแรงบันดาลใจให้คิดค้นสิ่งใหม่ๆ เช่น ยารักษาโรค

นอกจากนี้การจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าสินค้าที่ได้รับไปนั้นมาจากงานวิจัยอย่างเข้มข้นและได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ซึ่งก็จะสร้างผลตอบแทนให้ผู้ประดิษฐ์คิดค้น และขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

“การจดสิทธิบัตรของ “สูตรของน้ำมันงาดำและน้ำมันรำข้าวที่ผสมกันด้วยในอัตราที่เหมาะสม ก็จะสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์น้ำมันงาดำของเราได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้นมียอดขายที่ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ส่งผลดีเฉพาะด้านยอดขายแต่ช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรมากขึ้น โดยเฉพาะการจดอนุสิทธิบัตรที่ทำได้ง่ายกว่าแต่สามารถคุ้มครองการประดิษฐ์ที่ใหม่และใช้ประโยชน์ทางอุตสาหกรรมได้” นายพิษณุ กล่าว

JSP