โบรกฯ ชี้ 2 วันสุดท้าย SET ร่วง เหตุสภาพคล่องหายไม่มีแรงรับซื้อ แนะ “รอสะสม” เมื่อราคาหุ้นย่อตัว

เข้าสู่ช่วง 2 วันทำการสุดท้ายของการซื้อขายตลาดหุ้นไทยประจำปี 2568 กันแล้ว แต่ดูเหมือนสัญญาณจะไม่สดใสอย่างที่คิด เพราะนักวิเคราะห์คาด แนวโน้มลงมากกว่าขึ้น ด้วยสภาพคล่องที่หดหายไม่มีแรงรับ แนะ “รอ” สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลง ไม่ไล่ราคา

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงส่งท้ายปี และคาดว่า 2 วันทำการสุดท้ายจะยังร่วงสลับรีบาวด์สั้นๆ แนวโน้มลงมากกว่าขึ้น ด้วยสภาพคล่องที่หดหายไม่มีแรงรับ แม้กองทุนในประเทศอาจจะถูกคาดหวังจากนักลงทุน จะช่วยพยุงราคาหุ้นด้วยเงินซื้อกองทุนประหยัดภาษีช่วงท้ายปี แต่คาดว่าไม่อยู่

โดยสัปดาห์นี้คาดว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มแกว่งออกข้าง กรอบ 1,245-1,270 จุด เมื่อขาดปัจจัยมหภาค บวก ลบ ใหม่ เหลือเพียงแต่รอดูพัฒนาการสถานการณ์ต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการลงทุน เช่น เหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งน่าจะมีแนวโน้มผ่านจุดตึงเครียดที่สุดได้ในช่วงส่งท้ายปี

ทั้งนี้วันที่ 28-29 ธ.ค.นี้ รมต.ตปท.ไทย กัมพูชา และตัวแทนผู้นำเหล่าทัพ จะเดินทางไปจีนเพื่อประชุมหาทางแก้ปัญหากับ รมต.หวังอี้ หลังผลเจรจาเมื่อ 27 ธ.ค.ได้ข้อตกลงหยุดยิงกันแล้ว, แนวทางจัดการปัญหาบาทแข็ง-ล่าสุดออกกฎใหม่คุมเข้มการโอนเงินเข้าประเทศแล้ว โดยธุรกรรมตั้งแต่ 2 แสนดอลลาร์ขึ้นไปจะต้องรายงานเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน

ด้านปัจจัยในต่างประเทศ ติดตามชื่อประธานเฟดคนใหม่ อาจสร้างความประหลาดใจเชิงบวกต่อตลาดหุ้น (วอลเลอร์ คณะกรรมการปัจจุบัน ที่มีมุมมองนโยบายผ่อนคลาย มีลุ้นเข้าเส้นชัย), พัฒนาการ เวเนซุเอลา-สหรัฐฯ ล่าสุดเรือส่งน้ำมันไปจีน ถูกสหรัฐปิดกั้นแล้ว จับตาการตอบโต้กลับจากทางการจีน

ขณะที่คาดหากจีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกแร่เงิน อาจกลายเป็นประเด็นกดดันราคาหุ้นกลุ่มส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติม และอาจฉุดบรรยากาศลงทุน แต่หุ้นพลังงาน น้ำมัน โรงกลั่น คาดกลายเป็นกลุ่มเด่นจากเหตุความตึงเครียดดังกล่าว

สำหรับกลยุทธ์รอบนี้ ยังคงเน้นไปที่การ ซื้อแล้วถือ และคอยเฝ้าพฤติกรรมราคาหุ้นที่ฝ่ายวิจัยแนะนำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งติดตามประเด็นที่มีผลบวกหรือลบต่อราคาหุ้นที่แนะนำ เพื่อตัดสินใจที่จะถือต่อ หรือ ขายตัดขาดทุน โดยจะรอดูจังหวะหาหุ้นเพิ่มเข้าพอร์ตเมื่อมั่นใจว่าตลาดหุ้นไทยตั้งรับกับสถานการณ์ได้แล้ว และ เห็นโมเมนตั้มทางานผลักดันราคาขึ้น

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ “รอ” สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลง ไม่ไล่ราคา เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ เพิ่มการเล่นหุ้นตามกระแสการเก็งกำไร