Avatar 3 แบก MAJOR ไม่ไหว! โบรกฯ คาดกำไร Q4 ดิ่งหนัก 30% หนังไทยทำพิษ รายได้ต่ำกว่าคาดมาก

MAJOR หนังฟอร์มยักษ์แบกไม่ไหว โบรกฯ กำไรไตรมาส 4/68 วูบ 30% เหตุหนังไทยทำรายได้ต่ำกว่าคาด พร้อมฉุดกำไรทั้งปี 68 ต่ำกว่าประมาณการ เหลือ 500 ล้านบาท



นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองถึงหุ้น MAJOR ว่า แม้จะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Avatar 3 เข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดปลายปี แต่ภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องทำรายได้ต่ำกว่าคาดมาก ทั้ง ธี่หยด 3 ,อนงค์ 2, มือปืนและหมู่บ้านโคกระโหลก

ดังนั้น ทำให้รายได้โรงภาพยนตร์งวดไตรมาส 4/68 น่าจะต่ำกว่า ไตรมาส 4/67 ที่มีหนังทำเงินอย่าง ธี่หยด 2 และวัยหนุ่ม ประมาณ 5-10% ส่งผลต่อเนื่องถึงรายได้ป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม ส่วนธุรกิจโฆษณาก็ได้รับผลกระทบจากการชะลอใช้เม็ดเงินโฆษณาของลูกค้า

โดยประเมินกำไรไตรมาส 4/68 เบื้องต้นน่าจะทำได้เพียง 200-220 ล้านบาท แม้เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดเทียบกับไตรมาส 3/68 ที่มีกำไร 126 ล้านบาท แต่ลดลงมากกว่า 30% จากไตรมาส 4/67 ที่มีกำไร 321 ล้านบาท หลักๆมาจากธุรกิจโฆษณาซึ่งเป็นธุรกิจที่ให้มาร์จิ้นสูงสุด มีรายได้ลดลงแรง หาก MAJOR ทำกำไรไตรมาส 4/68 ได้ตามนี้ จะทำให้มีกำไรปี 2568 ราว 500 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 14%

ทั้งนี้ ในปี 2569 MAJOR จะให้ความสำคัญอย่างมากกับภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้ต่ำกว่าคาดหลายเรื่องในปี 2568 โดยจะเพิ่มทั้งคุณภาพการผลิตและจำนวนเรื่องที่ออกฉาย ส่วนภาพยนตร์ฮอลิวูดถือว่ามีหน้าหนังที่แข็งแรง โดยตั้งเป้าจำนวนตั๋วภาพยนตร์ปี 2569 ที่ 35 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 40%

ขณะที่รายได้ป๊อปคอร์นจะเติบโตตามจำนวนผู้ชม และเดินหน้าขยายธุรกิจป๊อปคอร์นถุงร่วมกับ TKN ส่วนธุรกิจโฆษณาที่ทำรายได้พลาดเป้าในปี 2568 ก็จะมีการปรับทีมงานครั้งใหญ่ เพื่อรับมือกับตลาดที่มีความไม่แน่นอนสูง

ส่วนการลงทุนในปี 2569 จะเน้นระบบ IT และขยายเตู้บริการสั่งตั๋ว/อาหารอัตโนมัติ (SOK)เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมพิจารณาคืนพื้นที่เช่าที่ไม่สร้างมูลค่า สำหรับธุรกิจในกัมพูชาที่ MAJOR มีสัดส่วนการถือหุ้น 70% ปัจจุบันมีรายได้คิดเป็น 4% ของรายได้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ทั้งหมด ฝ่ายวิจัยมองว่าบริษัทมีแนวโน้มพิจารณาทางเลือกเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว ซึ่งอาจรวมถึงการปรับโครงสร้างการถือหุ้นกับพันธมิตรท้องถิ่น

ดังนั้น คงน้ำหนักลงทุน Neutral แม้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/68 จะต่ำกว่าที่ประเมินไว้ แต่โครงการซื้อหุ้นคืนยังเป็นเกราะป้องกันราคาหุ้น และมี Line Up ภาพยนตร์ ปี 2569 ที่มีความต่อเนื่องตลอดทั้ง 4 ไตรมาส ดีกว่าปี 2568 ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 12.30 บาท