Talk of The Town

GPSC ปิดดีล “ราชบุรี เพาเวอร์” โบรกฯ คาดช่วยหนุนกำไรระยะยาว เตรียมบุ๊กกำไรพิเศษทางบัญชี 450 ลบ.


25 ธันวาคม 2568

GPSC แจงปิดดีลเข้าซื้อหุ้น “ราชบุรี เพาเวอร์” (RPCL) เป็น 24.37% ฟากโบรกฯ มองจะช่วยหนุนกำไรระยะยาว พร้อมเล็งปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 69

GPSC ปิดดีล “ราชบุรี เพาเวอร์”_S2T (เว็บ)_0.jpg

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตามที่บริษัทได้แจ้งต่อตลท.ในวันที่ 8 กันยายน 2568 เรื่อง การลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัท ราชบุรี เพาเวอร์ จำกัด (“RPCL”) ระหว่างบริษัท (ผู้ซื้อ) และ Chubu Electric Power Company International B.V. และ Toyota Tsusho Corporation (ผู้ขาย) ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน RPCL เพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 24.375% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ RPCL นั้น

โดยบริษัทได้ดำเนินการตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาซื้อขายได้แล้วเสร็จและการซื้อขายหุ้นมีผลสมบูรณ์เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 และ RPCL เปลี่ยนสถานะจากเงินลงทุนในตราสารทุนที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น เป็นบริษัทร่วมของบริษัท โดยการลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้นในระยะยาว

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า บริษัทแจ้งว่าได้ดำเนินการซื้อหุ้น บริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ (RPCL) เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 68 ซึ่งจะทำให้บริษัทถือหุ้นเพิ่มเป็น 24.38% จากเดิม 15% คิดเป็นมูลค่าธุรกรรมประมาณ 470 ล้านบาท

โดย RPCL เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่หรือ IPP มีกำลังการผลิต 1,400 MW ทั้งนี้การรับรู้ผลประกอบการ RPCL จะมีการเปลี่ยนสถานะจากเงินลงทุนในตราสารทุน เป็นบริษัทร่วมของบริษัท เบื้องต้นมองเป็นบวกจากการเพิ่มกำลังการผลิตช่วยหนุนกำไรในระยะยาว และอยู่ระหว่างปรับประมาณการกำไรปีหน้า จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นครั้งนี้ อย่างไรก็ตามธุรกรรมครั้งนี้บริษัทจะรับรู้กำไรพิเศษทางบัญชีประมาณ 450 ล้านบาทหรือ 0.16 บาท/หุ้น

ทั้งนี้ นอกจากประเด็นข้างต้นซึ่งคาดว่าระยะสั้นจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ ยังมีปัจจัยภายนอกช่วยหนุนเป็น sentiment บวกต่อผลประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นเงินบาทที่แข็งค่ามากสุดในรอบหลายปี ส่งผลให้มีโอกาสรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงไตรมาส 4/68

ประกอบกับในส่วนของราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกปรับตัวลงมาตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. จะช่วยให้ต้นทุนก๊าซธรรมชาติของบริษัทลดลงในอนาคต ในมุมการลงทุนจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากปัจจัยที่กล่าวมา รวมไปถึงราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงรับรู้ประเด็นลบด้านค่าไฟก่อนหน้านี้ทำให้อัพไซด์เปิดกว้างมากขึ้น ราคาพื้นฐาน 46 บาท