ข่าวประชาสัมพันธ์

ฟร้อนท์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง ระดมทีมฟื้นฟูหาดใหญ่ นำ “รถสูบส่งน้ำและระบายน้ำแบบไฮดรอลิกเคลื่อนที่” แสดงศักยภาพด้านวิศวกรรม


18 ธันวาคม 2568

S__21250325_0.jpg

นายภาณุ โชคอภิรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟร้อนท์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลายลง ได้สนับสนุนภารกิจฟื้นฟูเมืองทันที ด้วยการส่ง “รถสูบส่งน้ำและระบายน้ำแบบไฮดรอลิกเคลื่อนที่” พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่าน คือ นายเกชา หินอัคคีเดช และ นายโยธิน วันทนีย์วรกุล ลงพื้นที่ช่วยเหลือการระบายน้ำคงค้างในชั้นใต้ดินของหน่วยงานและสถานประกอบการต่าง ๆ ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 8 ธันวาคม 2568 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

โดยกล่าวอีกว่า ภารกิจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นด้าน ESG ที่บริษัทให้ความสำคัญมาโดยตลอด ในการใช้ศักยภาพด้านวิศวกรรมช่วยเหลือสังคมและชุมชนรอบข้าง ระบายน้ำ 10 จุดสำคัญ ปริมาณรวมกว่า 60,000 ลูกบาศก์เมตรเพื่อระบายน้ำจากพื้นที่ชั้นใต้ดินที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ 

  1. โรงพยาบาลหาดใหญ่ ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 2 อาคาร

  2. โรงพยาบาลมิตรภาพสามัคคี ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น

  3. ศูนย์การค้าไดอาน่า ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น

  4. สโตร์ฟาร์มาเพล็กซ์ ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น

  5. ร้านศูนย์ยาเภสัชกร ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น

  6. โรงแรมเดอะรีเจนซี่ ชั้นใต้ดิน 4 ชั้น

  7. โรงแรมญันนะตีย์ ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น

  8. โรงแรมบุรีศรีภู ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 2 อาคาร

  9. โรงแรมสยามเซ็นเตอร์หาดใหญ่ ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น  

  10. คอร์เนอร์สโตนคอนสตรัคชั่น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น

 ซึ่งรถระบายน้ำที่ใช้ในภารกิจนี้ มีความสามารถที่เหมาะกับงานในพื้นที่แคบและลึก ด้วยเทคโนโลยีสูบน้ำระบบไฮดรอลิก ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่มีกำลังสูบน้ำได้ถึง 620 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และมีกำลังส่งสูง 11 เมตร จึงช่วยให้เข้าถึงพื้นที่ของอาคารที่มีชั้นใต้ดินหลายชั้นได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ฟร้อนท์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง ขอขอบคุณผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในจังหวัดหาดใหญ่-สงขลา และหอการค้าจังหวัดสงขลา ที่ให้การดูแลทีมงานอย่างดียิ่ง ทั้งด้านที่พักและอาหาร ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติงานกว่า 10 วัน 

“เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูพื้นที่หลังประสบอุทกภัย และพร้อมเดินหน้าสนับสนุนการฟื้นฟูสาธารณภัยในทุกโอกาส  ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมอย่างยั่งยืน ตามหลัก Environment – Social – Governance (ESG)นายภาณุ กล่าว