คปภ.เพิกถอนใบอนุญาต!ตัวแทนประกันชีวิต ฉ้อโกงเบี้ยประกันกว่า 100 ล้านบาท
คปภ.เพิกถอนใบอนุญาต!ตัวแทนประกันชีวิต บมจ.ไทยประกันชีวิต ข้อหาหลอกลวงผู้เอาประกันภัยให้ชำระค่าเบี้ยประกันภัย แต่ไม่ดำเนินการส่งเงินค่าเบี้ยประกันภัยให้บริษัทฯ เบื้องต้นตรวจพบผู้เสียหาย 12 ราย จำนวนเบี้ยประกันกว่า 100 ล้านบาท ด้านไทยประกันชีวิตแจงไล่ออกตั้งแต่ 3 ต.ค.68
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.)เพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตของนางสาวจันเกตุ ทับบุญ ตัวแทนประกันชีวิตของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หลังพบว่ามีเจตนาทุจริตหลอกลวงผู้เอาประกันภัยให้ชำระค่าเบี้ยประกันภัยเพื่อรักษาสถานะสัญญาประกันชีวิต แต่ไม่ดำเนินการส่งเงินค่าเบี้ยประกันภัยให้บริษัทฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาของสาธารณชนต่อภาพรวมของธุรกิจประกันภัย เบื้องต้นตรวจพบผู้เสียหาย 12 ราย
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคปภ. จึงได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานคดี ดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงพร้อมทั้งพยานหลักฐานเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อดำเนินคดีกับนางสาวจันเกตุฯ ในฐานความผิดฉ้อฉลประกันภัยตามมาตรา 114/3 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
สำหรับการชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัยนั้น สำนักงาน คปภ. ได้ออกนโยบายซึ่งเป็นมาตรการจัดการปัญหาเชิงรุกเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากพฤติกรรมทุจริต โดยกำหนดหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (1) บริษัทประกันภัยต้องกำหนดนโยบายให้การรับชำระค่าเบี้ยประกันภัยโอนเข้าบัญชีของบริษัท โดยตรงเท่านั้น พร้อมจัดทำคู่มือปฏิบัติงานเกี่ยวกับการรับชำระ
ค่าเบี้ยประกันภัยและระบบตรวจสอบการรับชำระจากผู้เอาประกันภัย (2) ในกรณีชำระเป็นเงินสดผ่านตัวแทนประกันภัยบริษัทต้องกำหนดแนวปฏิบัติให้ตัวแทนประกันภัยแจ้งผ่านระบบให้บริษัทรับรู้ว่ามีการรับเงินค่าเบี้ยประกันภัยและโอนเงิน เข้าบัญชีของบริษัทภายในวันทำการถัดไป และห้ามมิให้นายหน้าประกันภัยบุคคลธรรมดารับชำระค่าเบี้ยเป็นเงินสดโดยตรง หากฝ่าฝืน บริษัทต้องยกเลิกสัญญาและส่งข้อมูลให้สำนักงาน คปภ. บันทึกในระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย
ขณะที่ บมจ.ไทยประกันชีวิต ชี้แจงว่า บริษัทฯมีคำสั่งให้นางสาวจันเกตุพ้นสภาพการเป็นตัวแทนประกันชีวิต ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2568 พร้อมทั้งได้ส่ง SMS แจ้งผู้เอาประกันภัยที่นางสาวจันเกตุดูแลทันทีที่มีคำสั่งพ้นสภาพ และได้ดำเนินคดีนางสาวจันเกตุข้อหายักยอกทรัพย์ และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก แต่นางสาวจันเกตุมิได้มาพบตามหมายเรียก ปัจจุบันพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณาออกหมายจับ อีกทั้งได้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิดที่ได้ใช้เอกสารของบริษัทฯ ไปหลอกลวงด้วยอีกส่วนหนึ่ง
สำหรับการดูแลผู้เอาประกันภัยที่ร้องเรียนนั้น บริษัทฯ ได้พิจารณารับผิดชอบความเสียหายในรายที่มีหลักฐานการโอนเงิน และหลักฐานประกอบอื่นที่สอดคล้องกับลักษณะการทำประกันชีวิตและข้อเท็จจริงที่ร้องเรียน พร้อมทั้งจัดตั้งทีมกฎหมายช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่มีความประสงค์ร้องทุกข์ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงกับนางสาวจันเกตุ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จำเป็นต้องตรวจสอบและพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบรัดกุม เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้พบความไม่ปกติของข้อมูลการร้องเรียนบางส่วน
โดยจากการตรวจสอบพบว่า ผู้เอาประกันภัยที่ร้องเรียนบางส่วนเป็นตัวแทนฯ หรือเคยเป็นตัวแทนฯ ในสังกัดของนางสาวจันเกตุ ซึ่งได้สอบผ่านใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต มีความรู้และความเข้าใจในการเสนอขายและการทำประกันชีวิตเป็นอย่างดี รวมถึงผู้ร้องเรียนบางส่วนเป็นบุคคลใกล้ชิดนางสาวจันเกตุและทีมงาน ขณะเดียวกันยังตรวจสอบพบวิธีการทำประกันชีวิต การชำระเบี้ยฯ รวมไปถึงหลักฐานการรับชำระเบี้ยฯ ที่ขาดความสอดคล้องกับข้อเท็จจริง หรือไม่เข้าลักษณะการทำประกันชีวิต หรือมีการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลอื่นที่มิใช่บัญชีของบริษัทฯ
“บริษัทฯ ขอเรียนย้ำว่า บริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน ซึ่งขั้นตอนการเสนอขายกรมธรรม์ของบริษัทฯ มีการควบคุมให้ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์ และมีการออกหลักฐานการรับเงินระหว่างการนำเสนอขาย รวมถึงมีข้อความ SMS แจ้งผู้เอาประกันภัยกรณีที่บริษัทฯ ได้รับชำระเบี้ยฯ ปีแรกเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นผู้เอาประกันภัยสามารถใช้แอปพลิเคชันไทยประกันชีวิตในการติดตามธุรกรรมต่างๆ ได้ทันที”
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้กำหนดมาตรการดำเนินการเพื่อป้องกันความเสี่ยงมิให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าว รวมถึงเหตุทุจริตอื่นๆ ประกอบด้วย การเปลี่ยนวิธีการออกใบเสร็จรับเงินชั่วคราวเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ การยกเลิกการชำระเบี้ยฯ ด้วยเงินสดสำหรับผู้เอาประกันภัยรายใหม่ และการสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้เอาประกันภัยเกี่ยวกับวิธีการชำระเบี้ยประกันภัยอย่างต่อเนื่อง