โบรกฯ มองบวก JAS คว้าดีล ถ่าย “พรีเมียร์ลีก” ในเวียดนาม แต่ “ไทยยังขาดทุน” – เสี่ยงเว็บดูบอลเถื่อน

จากประเด็นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. JAS รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ บอร์ดบริหารมีมติให้ Jasmine International (Hong Kong) Limited (JASHK) (JAS ถือหุ้น 100%) เข้าซื้อสิทธิถ่ายทอดแบบเอ็กซ์คลูซีฟของ English Premier League (EPL) ในเวียดนามเป็นเวลา 5.5 ฤดูกาล ภายใต้เงินลงทุนรวม 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ในขณะเดียวกัน JASHK จะทำข้อตกลงความร่วมมือกับ FPT Telecom Co., Ltd. (FPTT) โดยที่ JAS ตกลงโอนสิทธิถ่ายทอดแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่ FPT สำหรับตลาดเวียดนาม ภายใต้ค่าบริการรายปีที่ 26 ล้านดอลลาร์ฯ และส่วนแบ่งรายได้ 35% หลังหักค่าบริการดังกล่าว JAS คาดว่าจะดำเนินการตามรายการข้างต้นให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ FPTT เป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตบ้านรายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม มีจำนวนผู้ใช้ 4 ล้านราย และส่วนแบ่งตลาด 28%

นอกจากนี้ JASHK จะทำธุรกรรมกับ Mono Streaming (MONO ถือหุ้น 99.99%) สำหรับการให้บริการที่ปรึกษาและติดตั้งระบบซึ่งรายการนี้ถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน จึงต้องได้รับมติพิเศษจากผู้ถือหุ้นของ JAS และ MONO โดยกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นทั้งสองบริษัทในวันที่ 6 ก.พ. 2569

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดีลนี้เป็นบวกต่อ JAS เนื่องจาก 1.ต้นทุนถูกกว่าประเทศไทย 4 เท่า 2. ขนาดตลาดเวียดนามใหญ่กว่าประเทศไทย 1.4 เท่า และ 3. ข้อตกลงความร่วมมือกับ FPTT รับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำที่ 18 ล้านดอลลาร์ฯ ตลอดระยะเวลา 5.5 ปี

อย่างไรก็ตาม มีมุมมองบวกเชิงระมัดระวังต่อพัฒนาการครั้งนี้ของ JAS ประการแรก โครงการ EPL ในประเทศไทยที่ยังขาดทุนหนักน่าจะได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนเพียงพอจากเงินชดเชยของ NT จำนวน 5.14 พันล้านบาท

ประการที่สอง การจัดทำข้อตกลงความร่วมมือกับ FPTT ที่มีมูลค่าสัญญา 143 ล้านดอลลาร์ฯ ครอบคลุมต้นทุนการเข้าซื้อ สิทธิ์ของ JAS ที่ 110 ล้านดอลลาร์ฯ นอกเหนือจากต้นทุนธุรกรรมกับ Mono Streaming อีก 15 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งหมายความว่ามูลค่าที่ JAS สร้างได้ขั้นต่ำจากดีลนี้อยู่ที่18 ล้านดอลลาร์ฯ (0.06 บาทต่อหุ้น )

การคำนวณชี้ให้เห็นว่ามูลค่าที่เพิ่มขึ้นน่าจะสูงกว่านี้หาก FPTT สามารถดึงดูดผู้สมัครใช้บริการ EPL ได้มากกว่าจำนวนระดับคุ้มทุนที่ 0.93 ล้านราย

ส่วนในเชิงลบ เศรษฐกิจที่ซบเซา และการต่อสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ที่สำเร็จเพียงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้จำนวนผู้สมัครใช้บริการในประเทศไทยเติบโตช้ากว่าที่คาด แม้จะมีแพกเกจราคาเชิงรุกกว่าที่คาดไว้ก็ตาม

ดังนั้นคงคำแนะนำ “ถือ” JAS แต่ลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2569 ลงเป็น 1.56 บาท แม้มีมุมมองเชิงบวกต่อพัฒนาการของโครงการ EPL เวียดนาม แต่สถานการณ์การขาดทุนของโครงการ EPL ในไทยยังน่ากังวล และการต่อสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ในตลาดเวียดนามยังคงเป็นความท้าทายสำคัญที่กำหนดมูลค่าเพิ่มจากโครงการนี้ และมองว่าราคาหุ้นของ JAS เมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 1.45% สะท้อนผลตอบแทนขั้นต่ำจากการลงทุนในโครงการ EPL เวียดนามไปเพียงบางส่วน