ก.ล.ต. ขีดเส้นตายไม่ได้ กรณีสอบ 7 บจ. เอี่ยวสแกมเมอร์ วอนนักลงทุนเชื่อมั่นการทำงาน

ก.ล.ต. แจงยังเดินหน้าจัดการปัญหาใช้ตลาดทุน-สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นแหล่งฟอกเงิน ชี้กรณี 7 บริษัทจดทะเบียนมีเอี่ยวสแกมเมอร์ข้ามชาติ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ไม่สามารถขีดเส้นตายได้

นาง พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดการกับปัญหาการฉ้อโกง โดยใช้ตลาดทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลในการฟอกเงิน ปัจจุบัน ก.ล.ต ได้มีทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง เพื่อปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ซึ่งอยากให้นักลงทุนเชื่อมั่น

แม้จะไม่ได้มีการสื่อสารออกมาที่ต่อเนื่องก็ตาม โดย ก.ล.ต. ต้องใช้ความระมัดระวังในการสื่อสาร เนื่องจากหากเป็นกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียน ก็อาจกระทบต่อผู้ถือหุ้นบริษัทที่ปัจจุบันมีกลุ่มนักลงทุนที่ค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนสถาบัน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และประกันสังคม เป็นต้น

กรณี 7 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่เข้าข่ายหรือมีเอี่ยวกับเรื่องสแกมเมอร์ข้ามชาติ โดยนำเงินเข้ามาฟอกในตลาดทุนผ่านการใช้นอมินีเข้ามาถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว ก.ล.ต ได้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลซึ่งยังไม่สามารถบอกเวลาหรือขีดเส้นตายที่ชัดเจนได้

อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. ยังคงให้ความสำคัญกับการตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน เพื่อเปิดเผยตัวตนของผู้ถือหุ้นที่แท้จริงและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ในการรายงานและการทำคำเสนอซื้อ ซึ่งหากมีข้อมูลหลักฐานที่เพียงพอก็จะทำการกำหนดความผิดว่าเข้าข่ายใด

ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะมีการมาตรการและยกระดับมาตรฐานผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางในด้านการรู้จักลูกค้า (KYC) และการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะลูกค้า (CDD) เพื่อปิดช่องทางการทุจริต พร้อมกับยืนยันว่าการบังคับใช้กฎหมายและการประสานงานระหว่างหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดทุน