เอสซีจี คว้ารางวัลผู้นำองค์กรที่โดดเด่นด้านความยั่งยืน ในงาน “Spotlight Day 2025” พร้อมเผยทางรอดธุรกิจยุคกระแสโลกาภิวัตน์ย้อนกลับ

เอสซีจี โดย นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ รับรางวัล “Outstanding Contributor” ด้าน “Sustainability” ในงาน “Spotlight Day 2025” ซึ่งจัดโดย บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด โดยกองบรรณาธิการ SPOTLIGHT โดยมี ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในงาน พร้อมร่วมเสวนาหัวข้อ “แนวทางขับเคลื่อนธุรกิจฝ่ากระแสโลกาภิวัตน์ย้อนกลับ”

รางวัล “Outstanding Contributor” ด้าน “Sustainability” มอบให้แก่องค์กรชั้นนำที่โดดเด่นด้านการสร้างความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความมุ่งมั่นของเอสซีจี องค์กรชั้นนำระดับภูมิภาคที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG เพื่อสร้างการเติบโตยั่งยืนให้ธุรกิจ เศรษฐกิจ ควบคู่การดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Inclusive Green Growth) อาทิ การลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต ด้วยการใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยี เช่น แบตเตอรี่ความร้อนสำหรับอุตสาหกรรม (Heat Battery) การพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ปูนคาร์บอนต่ำ รวมทั้งการสนับสนุน SMEs ให้สามารถเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ เช่น โครงการ NZAP และ Go Together

สำหรับการเสวนาหัวข้อ “แนวทางขับเคลื่อนธุรกิจฝ่ากระแสโลกาภิวัตน์ย้อนกลับ” (Driving Business Through the Wave of Deglobalization) ร่วมกับ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร และ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวถึงแนวทางรับมือเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนจากอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ค่าเงินบาท และการแข่งขันด้านต้นทุน โดยชี้ว่าประเทศไทยและภาคธุรกิจต้องเร่ง “ลดต้นทุน” และ “เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน” ผ่านการใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีใหม่ พร้อมย้ำความสำคัญของการเริ่มจากโครงการต้นแบบขนาดเล็ก เช่น สระบุรีแซนด์บ็อกซ์ ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย เพื่อทดลองและขยายผลให้เร็ว รวมถึงการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่และอุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งเอสซีจีเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะขับเคลื่อนสู่การเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน