เรื่องเด่นวันนี้

SNNP พร้อมเสิร์ฟ “เจเล่ เยลลี่ โซดา” นวัตกรรมกิน-ดื่มสุดซ่า! เคี้ยวได้ ดื่มได้ ตั้งเป้ายอดขายทะลุ 150 ลบ.


01 ธันวาคม 2568
บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) เปิดตัวสินค้าใหม่ “เจเล่ เยลลี่ โซดา” นวัตกรรมกิน–ดื่มบวกความซ่าแบบโซดาในขวดเดียวกันครั้งแรกในไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไม่ใช่แค่ดื่มซ่า แต่เคี้ยวซ่าได้” มีให้เลือก 3 รสชาติยอดนิยม สตรอว์เบอร์รีโซดา, ส้มโซดา และมิกซ์ฟรุตครีมโซดา เจาะตรงกลุ่ม Gen Z ที่ชื่นชอบความสนุกและการแชร์ประสบการณ์ ฟากผู้บริหาร “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” ระบุเตรียมส่งสินค้าปูพรม 600 โรงเรียนทั่วประเทศ เดือนธันวาคมนี้ มั่นใจสร้างกระแสไวรัลบน TikTok พร้อมผลักดันยอดขายทะลุ 150 ล้านบาท และก้าวขึ้นเป็นสินค้าเรือธง ขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต

51153_0.jpg

 
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (SNNP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เปิดตัวสินค้าใหม่ “เจเล่ เยลลี่ โซดา” นวัตกรรมกิน–ดื่ม ผสาน เยลลี่หนึบ + ความซ่าแบบโซดาในขวดเดียวกัน ครั้งแรกในไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์โดนใจ “ไม่ใช่แค่ดื่มซ่า แต่เคี้ยวซ่าได้!” เจาะกลุ่ม Gen Z เตรียมปูพรมเข้าถึงกว่า 600 โรงเรียนทั่วประเทศในเดือนธันวาคม 2568 และขยายเพิ่มเติมในต้นปี 2569
 
ทั้งนี้ “เจเล่ เยลลี่ โซดา” มาพร้อมกับ 3 รสชาติยอดนิยม ได้แก่ สตรอว์เบอร์รีโซดา, ส้มโซดา และมิกซ์ฟรุตครีมโซดา ในราคาเข้าถึงง่ายเพียง 10 บาท พร้อมแผนวางจำหน่ายด้วยขนาด (Size) ที่เหมาะสมกับช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยตั้งเป้ายอดขายราว 150 ล้านบาท
 
โดยบริษัทฯ เดินหน้าแผนการตลาดครบวงจร ทั้งออฟไลน์, ออนไลน์ และอินฟลูเอนเซอร์ เจาะตรงกลุ่ม Gen Z ที่มองหาความสนุกสนานและการแชร์ประสบการณ์ คาดว่าจะสร้างกระแสไวรัลบน TikTok ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว และตั้งเป้าให้ผลิตภัณฑ์นี้ก้าวขึ้นเป็น “สินค้าเรือธง” ที่ช่วยผลักดันยอดขายในอนาคต
 
ปัจจุบัน SNNP ปรับกลยุทธ์การตลาดครั้งใหญ่ มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ (Brand Building) และการสื่อสารที่เข้าถึงจริง โดยลดการใช้พรีเซ็นเตอร์ แต่เพิ่มการลงทุนด้านแบรนด์และคอนเท้นต์ที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภค พร้อมจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขาย เช่น แคมเปญพิเศษให้แฟนคลับร่วมสนุกกับศิลปิน ในด้านช่องทางขาย Modern Trade ล่าสุดมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะแมคโคร (Makro) ที่เป็นดาวเด่นเติบโตสูงถึง 16% จากความร่วมมือด้าน PDQ (Pre-Determined Quantity Display) และโปรโมชั่นใหม่ ขณะที่ร้านค้าปลีก (Traditional Trade) คาดว่าจะฟื้นตัวตามมาตรการภาครัฐในต้นปีหน้า
 
สำหรับกลยุทธ์ในปีหน้า บริษัทฯ กำหนดยุทธศาสตร์ Invest in Core Business มุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ เพิ่มประสิทธิภาพช่องทางจัดจำหน่าย และผลักดันการฟื้นตัวของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV พร้อมเสริมไลน์สินค้าใหม่ในหลายหมวดหมู่ เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและเทรนด์การบริโภคยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับสินค้าราคาเข้าถึงง่าย สนุก และแชร์ต่อได้” นายวิโรจน์ กล่าวในที่สุด

54019_0.jpg