Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 1-12-25 (ทางนี้! วิธีลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาน้ำท่วม 2568)

1-12-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***สวัสดีวันที่ 1 ธันวาคม..เดือนสุดท้ายของปี 2568 เรียกว่าปีนี้หนักหนาสาหัสเอาการ!!! เราอดทนกันอีกนิดก้อจะผ่านปีงูไฟ ไปได้แล้ว ฮึบๆๆๆๆ

*** ศุกร์ที่ผ่านมา ดาวโจนส์ปิดที่ 47,716.42 จุด เพิ่มขึ้น 289.30 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่6,849.09 จุด เพิ่มขึ้น 36.48 จุด หรือ +0.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,365.69 จุด เพิ่มขึ้น 151.00 จุด หรือ +0.65%

***รายงานข่าวระบุว่า  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (28 พ.ย.) ในการซื้อขายที่เบาบางเพราะตลาดปิดทำการเร็วกว่าปกติหลังวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนธ.ค. โดยบรรดาเทรดเดอร์เริ่มเพิ่มความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย หลังจาก จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ยังมีช่องว่างสำหรับการปรับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มเติมในระยะใกล้นี้

***มาถึงเรื่องภายในประเทศเรากันบ้าง..ที่ร้อนแรงสุดตอนนี้ก้อคือน้ำท่วม ความเคลื่อนไหวที่เห็นแล้วคือ รัฐบาลเริ่มทยอยออกมาตรการเยียวยา+ฟื้นฟูผลกระทบน้ำท่วม ..มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มีโครงสร้างการจ่ายเงินเป็น 2 รูปแบบหลัก ผู้ที่เข้าเกณฑ์ทั้งสองเงื่อนไขจะได้รับความช่วยเหลือควบคู่กัน

***1. เงินเยียวยาแบบเหมาจ่าย (ชั้นที่ 1)

จำนวนเงิน: ครัวเรือนละ 9,000 บาท

เงื่อนไข: ที่พักอาศัยต้องถูกน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลา เกิน 7 วัน

 ***2. เงินช่วยเหลือแบบขั้นบันได (ชั้นที่ 2)

หมายเหตุ: เงินช่วยเหลือรวมสูงสุดที่ประชาชนจะได้รับคือ 29,000 บาท (9,000 บาท + 20,000 บาท)

 เป็นเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจากแบบเหมาจ่าย สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยจริงในพื้นที่ที่มีประกาศเขตภัยพิบัติ และต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบต่างๆ (เช่น หนังสือรับรองผู้ประสบภัยจาก อปท. และการประชาคมหมู่บ้าน)

 ***นอกเหนือจากเงินเยียวยาแล้ว รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้ออกมาตรการช่วยเหลือด้านอื่น ๆ ที่สำคัญ ดังนี้:

ด้านการเงินและการคลัง:

-พักชำระหนี้: มีมาตรการพักหนี้ พักเงินต้น พักดอกเบี้ย สำหรับลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ เป็นเวลา 1 ปี (ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด)

-สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ: เตรียมสินเชื่อดอกเบี้ย 0% สำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือนและร้านค้า

-การเร่งรัดการจ่ายสินไหมประกันภัย: ประสานงานกับ คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ให้บริษัทประกันเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับบ้านและรถที่เสียหายจากน้ำท่วมโดยเร็ว

ด้านแรงงานและสวัสดิการ:

-ผู้ประกันตน: สำนักงานประกันสังคมมีมาตรการช่วยเหลือและชดเชยรายได้สูงสุดทุกกรณี เช่น การจ่ายเงินชดเชย 50% ของค่าจ้างรายวัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน

-การเสียชีวิต: จ่ายเงินชดเชยแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ รายละ 2,000,000 บาทในพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ช่องทางขอความช่วยเหลือเร่งด่วน:

-สายด่วน พม. (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์): โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

Line Traffy Fondue: แจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ Line ID: @traffyfondue

***ทางนี้!!! วิธีลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาน้ำท่วม 2568

ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับการเยียวยาช่วยเหลือจากรัฐบาลได้ 2 ช่องทางหลัก:

***1. ช่องทางลงทะเบียนออนไลน์ (แนะนำ)

เป็นช่องทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด

เว็บไซต์ลงทะเบียน: https://flood68.disaster.go.th/

ขั้นตอนโดยสรุป:

เข้าสู่เว็บไซต์ข้างต้น

คลิกที่แถบสีเหลือง "แบบคำร้องขอรับความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568"

ยอมรับเงื่อนไขการให้บริการ

กรอกข้อมูลส่วนบุคคล ที่อยู่ปัจจุบันที่ประสบภัย ระยะเวลาและจำนวนวันที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย และข้อมูลบัญชีธนาคาร

ข้อแนะนำ: ควรผูกบัญชี "พร้อมเพย์" ด้วยเลขบัตรประชาชน เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการรับเงิน

***2. ช่องทางยื่นแบบฟอร์มเอกสารด้วยตนเอง

 สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกช่องทางออนไลน์

เว็บไซต์ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม: https://flood68.disaster.go.th/ (คลิกที่แถบสีฟ้าเพื่อดาวน์โหลดแบบฟอร์ม)

สถานที่ยื่น: องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือ เทศบาล

***ทั้งนี้มีการวิเคราะห์จากวงการหุ้นว่าครั้งนี้จะมีผลกระทบเศรษฐกิจและกำไรจำกัด โดยประเมินว่าจะมีความเสียหายราว 1.97 หมื่นล้านบาท หรือราว -0.1% ต่อ GDP สอดคล้องกับพื้นที่ได้รับผลกระทบเพียง 9 จังหวัด ที่มีสัดส่วน 5% ของ GDP ประเทศ ต่อกำไรตลาดหุ้นกระทบจำกัด คาดเพียง -6,000 ล้านบาท หรือ -0.6%

***ผลกระทบต่อตลาดหุ้น คาดว่าน่าจะสะท้อนในราคาหุ้นล่วงหน้าไปแล้ว โดย SET ช่วงสัปดาห์นี้แกว่งตัวบริเวณแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่ 1260 +/- จุด ขณะที่ตลาดโลกฟื้นจากความคาดหวังว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยในประชุม ธ.ค. ระดับปัจจุบันทำให้ SET กลับมาอยู่ในโซน Deep Value โดย Equity Risk Premium ~5.2% (ใกล้ AVG +2SD) ซึ่งมักเป็นจุดเริ่มต้นรอบฟื้นตัวใหม่ โดยมีแรงส่งแรงขายลดความเสี่ยงล่วงหน้า—ขณะที่สถานการณ์จริงคลี่คลายเร็วกว่ากังวล

***กลยุทธ์ลงทุน: เข้าสู่จังหวะทยอยสะสม เน้น 2 กลุ่มฟื้นตัวนำตลาด

1) กลุ่มได้ประโยชน์จากการฟื้นฟูผสานนโยบายกระตุ้น ค้าปลีกสินค้ารีโนเวทบ้าน /วัสดุก่อสร้าง กลุ่มได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง High Yield: สื่อสาร / อสังหาฯ / REITs / Property Fund หุ้นเด่น : GLOBAL, ADVANC, GULF

2) กลุ่มที่ถูกขายล่วงหน้ามากเกินไป vs. ผลกระทบจริงจำกัด เน้นบริบท “ราคาปรับลงแรงก่อนข่าว” แต่พื้นฐานไม่เสียหายหุ้นเด่น: MTC CENTEL BDMS