
บมจ. พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ (PMC) โชว์ผลงานแข็งแกร่งในไตรมาส 3/2568 กำไรสุทธิพุ่งเกือบ 51% แตะกว่า 20 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แม้รายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย อยู่ที่เกือบ 210 ล้านบาท แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาระดับกำไรขั้นต้นได้โดดเด่น เพิ่มขึ้นเกือบ 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนจากสัดส่วนสินค้ากลุ่มฟิล์มและฉลากพิเศษที่มีมาร์จิ้นสูง ขณะที่บริษัทเดินหน้าขยายฐานรายได้สู่ผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์เปล่า (Sticker) หรือฉลากกาว (Self-Adhesive Label) ชั้นนำของประเทศ เปิดเผยถึง ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 3/2568 สะท้อนความสำเร็จของกลยุทธ์การเพิ่มยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิล์ม รวมถึงการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 20.16 ล้านบาท เติบโตพุ่งกว่า 50.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือเป็นการทำกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ PMC เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แม้รายได้รวมจะลดลง 11.1% จากปีก่อนมาอยู่ที่ 209.57 ล้านบาท แต่โครงสร้างต้นทุนที่ดีช่วยหนุนผลลัพธ์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ภายใต้เศรษฐกิจที่ท้าทาย
ปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากความสามารถในการรักษากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับเติบโตต่อเนื่องที่ 49.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ 15.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 (QoQ) สะท้อนความยืดหยุ่นของธุรกิจ แม้เศรษฐกิจโลกยังผันผวนจากการฟื้นตัวหลังโควิด สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรป ภาวะ Energy Crisis และนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดย PMC ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง จากการคุมคุณภาพ การบริหารต้นทุน และการขยายพอร์ตไปสู่กลุ่มสินค้ามาร์จิ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
ด้านผลดำเนินงานรอบ 9 เดือน บริษัทฯ มีรายได้รวม 628.98 ล้านบาท ลดลง 5.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรสุทธิเติบโตเกือบ 26% แตะ 46.91 ล้านบาท ขณะที่กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 138.90 ล้านบาท หรือเติบโต 13.5% สะท้อนถึงโครงสร้างรายได้ที่มีประสิทธิภาพและการบริหารจัดการที่แข็งแรง
PMC มีโครงสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กระดาษ 54% ฟิล์ม 24% ฉลากพิเศษ 20% และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ 3% ส่วนรายได้ตามภูมิภาคแบ่งเป็นตลาดในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30% จากยอดขายและบริการรวม ณ ไตรมาส 3/2568 โดยตลาดต่างประเทศได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อและนโยบายทางภาษีของสหรัฐฯ ที่ทำให้ดีมานด์ชะลอตัว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจ บริษัทฯ ยังเห็นแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม การส่งออกที่ดีกว่าคาด และการบริโภคในประเทศที่ยังแข็งแรง แม้กระทรวงการคลังจะคาดการณ์ GDP ปีนี้เติบโตที่กรอบ 1.8%–2.3% ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน แต่ PMC ยังคงประเมินสถานการณ์อย่างระมัดระวัง และเสริมกลยุทธ์เพื่อรองรับโอกาสการเติบโต
“PMC เดินหน้ากลยุทธ์เพิ่มยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิล์มและผลิตภัณฑ์พิเศษอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยหนุนทั้งกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิให้แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมุ่งขยายฐานรายได้ไปสู่ผลิตภัณฑ์จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เพื่อสร้างเสถียรภาพให้รายได้ในระยะยาว ส่งผลให้กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดในไตรมาส 3/2568 สะท้อนถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ที่วางไว้ บริษัทฯ มั่นใจพร้อมเดินหน้าธุรกิจเต็มกำลัง เพื่อดันรายได้เติบโตในระดับ Double Digit ตามเป้าหมาย” นายเอก กล่าวทิ้งท้าย
ยอดนิยม
FPT คว้า CGR ระดับดีเลิศ 6 ปีซ้อน พร้อมรับการจัดอันดับสูงสุดจาก GRESB
แอสเซทไวส์ จับมือ เปี่ยมสุข ร่วมถ่ายทอดมนต์เสน่ห์คอนเสิร์ต “ปฐมบท” มอบความสุข ผ่านบทเพลงอมตะเหนือกาลเวลา
ออริจิ้น เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต บางเทา สร้างปรากฏการณ์! SOLD OUT ภายในเวลา 15 นาที !! กวาดยอดขายกว่า 500 ล้านบาท
SC Asset แต่งตั้ง All Well Corp เป็น Exclusive Partner