PTT เดินกลยุทธ์ปี 69 เร่งสรุปพันธมิตร-สร้างเงินสด

ใกล้จะจบช่วงสิ้นปี 2568 บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งก็เริ่มที่จะประกาศแผนในปี 2569 ออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว แต่สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ อย่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แม้จะยังไม่ได้ประกาศออกมา แต่ก็ได้เปิดเผยกลยุทธ์บางส่วนออกมาให้เห็นบางแล้ว

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ได้ให้มุมมองถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 2569 ยังมีความท้าทายมากขึ้นต่อเนื่อง ด้วยราคาน้ำมันที่แนวโน้มปรับตัวได้ไม่สูงมากนัก และมาร์จิ้นของธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีจะยังทรงตัวต่อเนื่อง

แผนรับมือของบริษัท จึงยังมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันของทุกกลุ่มธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพ และการบริหารจัดการกระแสเงิน ซึ่งในปีหน้าตั้งเป้าที่จะสร้างกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นอีก 100,000 ล้านบาท ผ่านกลยุทธ์และโครงการต่อเนื่องที่ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2568

เปิดกลยุทธ์ปี 2569 สานต่อโครงการเดิม

ไม่ว่าจะเป็น MissionX ยกระดับการทำ Operational Excellence ปรับปรุงกระบวนการทำงาน ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ โดยวางเป้าเพิ่ม EBITDA ทั้งกลุ่ม ปตท. ปี 2568 ที่ 10,000 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปีนี้มีมูลค่าประมาณ 8,332 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 30,000 ล้านบาท ภายในปี 2570

ลดบทบาทธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก

การปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยลดบทบาทธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ที่ผ่านบริษัทได้ปรับพอร์ตการลงทุนในธุรกิจ EV Value Chain ลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด ขายหุ้นบริษัท Contemporary Amperex Technology Co., Ltd รวมถึงจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด ตามกลยุทธ์ Smart Exit ส่งผลให้มีเงินสดกลับคืน

แปลงสินทรัพย์เป็นทุนเพิ่มกระแสเงินสด

โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการทำกำไรและเพิ่มกระแสเงินสดให้แก่บริษัท โดยมีเป้าหมายการแปลงขายสินทรัพย์ในธุรกิจหลัก เช่น ถังเก็บผลิตภัณฑ์ ท่อส่ง และท่าเรือ, การแปลงสินทรัพย์หรือขายที่ดินและอาคาร และลดบาทการลงทุนในธุรกิจและบริษัทที่ได้เข้าไปลงทุน เช่น ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต

ดัน PTT TANK เป็น Infrastructure Flagship ของกลุ่ม

ในปี 2569 บริษัทจะดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรผ่านการให้บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT Tank) เป็น Infrastructure Flagship หรือศูนย์รวมการบริหารสินทรัพย์ด้านโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ของกลุ่ม ที่มูลค่าของสินทรัพย์ที่ได้ประกาศลงทุนราว 47,000 ล้านบาท

โดยในอนาคตจะมีการนำสินทรัพย์จาก PTTGC และ TOP รวมถึงสินทรัพย์จากบริษัทในกลุ่มเพิ่มเข้ามาในอนาคต เนื่องจากหลังการโรดโชว์ได้มีกองทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศให้ความสนใจเป็นจำนวนมากถึง 10 ราย จึงประเมินว่าหากมีพันธมิตรเข้าลงทุนจะช่วยให้สิทนรัพย์และแหล่งเงินทุนมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น

ปิดดีล สรุปพันธมิตรธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี

การหาพันธมิตรเข้ามาเสริมในธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี ที่คาดว่าจะเห็นข้อสรุปที่ชัดเจนได้ภายในปี 2569 โดยสัดส่วนการถือหุ้นบริษัทจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ตามนโยบายของบริษัท

หาโอกาสลงทุนในธุรกิจ LNG

มองหาโอกาสในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เนื่องจากในอนาคตมองว่า LNG จะมีบทบาทในตลาดโลกมาก โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีปริมาณ LNG ในพอร์ตการลงทุนถึง 10 ล้านตันภายในปี 73 และ 15 ล้านตันใน 78 ซึ่งต้องมีการลงทุนเพื่อเพิ่มซัพพลาย รวมทั้งลงทุนในตลาดที่มีความต้องการ