กระดานข่าว

CH เผยงบ 9 เดือน กวาดรายได้ 1,258.31 ลบ. เดินหน้าปรับกลยุทธ์ สู้ต้นทุนสูง–ค่าเงินแข็ง


14 พฤศจิกายน 2568
CH งบ 9 เดือน ปี 2568.jpg

CH เผยผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 68 กวาดรายได้รวม 1,258.31 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5.46 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์เชิงรุก สู้ต้นทุนสูง–ค่าเงินแข็ง ด้านตลาดในประเทศโตแรง แบรนด์ “Bangkok Tasty by Chin Huay” และ “Eros” ทำยอดขาย New High กระแสตอบรับดีทั้งออนไลน์ และออฟไลน์

นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH ผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2568 มีรายได้รวม 1,258.31 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5.46 ล้านบาท เป็นผลจากการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งคิดเป็นสัดส่วน 86%  กลุ่มผลิตภัณฑ์ปลากระป๋องคิดเป็นสัดส่วน 12% และรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพคิดเป็นสัดส่วน 2%     

ด้านผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีรายได้รวม 377.59 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 19.66 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากต้นทุนภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกา (Reciprocal Tariff) ที่สูงขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่า และราคาขายที่ไม่สามารถปรับขึ้นได้ตามต้นทุน ซึ่งเป็นผลกระทบชั่วคราวที่เกิดจากสถานการณ์ภายนอก อย่างไรก็ตาม จากการปรับตัวอย่างรวดเร็วของบริษัท ทำให้สามารถบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถระบายสินค้าคงคลังที่มีอยู่เดิมออกไปได้ และเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตสินค้าใหม่ที่มีต้นทุนเหมาะสม

สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 4 ปี 2568 บริษัทปรับกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกา (Reciprocal Tariff) ที่สูงขึ้น โดยการเสนอสินค้าใหม่ที่มีคุณภาพใกล้เคียงสินค้าเดิมแต่ต้นทุนถูกกว่า ให้แก่ลูกค้าเก่าและใหม่ในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้ว

ขณะที่ตลาดภายในประเทศ บริษัทได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากทั้งสองแบรนด์ ได้แก่ Bangkok Tasty by Chin Huay ซึ่งมียอดขายทำสถิติใหม่สูงสุด (New High) ทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เติบโตขึ้นกว่า 147% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการทำการตลาดเชิงรุกและแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง อาทิ โปรโมชันแถมของที่ระลึกตามเทศกาล อาทิ กางเกงช้าง ปืนฉีดน้ำ และพวงกุญแจน้องสไบธีมฮาโลวีน และแบรนด์ Eros (อีโรส) ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ “มะม่วงแบะบ๊วย” วางจำหน่ายเฉพาะใน ร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ มีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบขนมเพื่อสุขภาพและผลไม้แปรรูป ซึ่งทั้งสองแบรนด์มีส่วนช่วยสำคัญในการสนับสนุนยอดขายในประเทศให้เติบโต และชดเชยรายได้จากตลาดส่งออกที่ชะลอตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

“แม้ในไตรมาส 3 จะเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทาย แต่ก็เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราใช้ในการปรับตัว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงาน และขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมั่นว่าผลจากการปรับตัวเชิงกลยุทธ์ในปีนี้จะช่วยหนุนรายได้และผลกำไรให้กลับมาเติบโตอย่างมั่นคงอีกครั้ง นายศักดา กล่าว

CH