จิปาถะ

“สันติ ปิยะทัต” คุมเข้มธุรกิจเช่ารถ สั่งตรวจสัญญา ลดช่องโหว่เอาเปรียบผู้บริโภค


10 พฤศจิกายน 2568
S__476913749.jpg

นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผลักดันมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ตามนโยบายรัฐบาล ลุยจัดระเบียบธุรกิจเช่ารถทั่วประเทศ คุมเข้มสัญญา ลดการเอาเปรียบ สร้างความเป็นธรรมให้ประชาชน พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ประกอบการที่ละเมิดสิทธิผู้เช่า

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ ดร.อรุณ คงเจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการซักซ้อมความรู้ความเข้าใจประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการเช่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2568 ซึ่งผ่านการกลั่นกรองทางกฎหมายและการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันระหว่างผู้ประกอบธุรกิจ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และประชาชนทั่วไป ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมจากการเช่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยมี นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบธุรกิจ และภาคประชาชน เข้าร่วมรับฟัง

ที่ผ่านมา สคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคเกี่ยวกับการทำสัญญาเช่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ไม่เป็นธรรม เช่น การริบเงินประกันหรือค่าเช่าล่วงหน้าโดยไม่มีความผิดจากผู้เช่า การบอกเลิกสัญญาโดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือการไม่จัดหารถทดแทนเมื่อรถเช่าไม่สามารถใช้งานได้ ประกาศฉบับนี้จึงกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องใช้แบบสัญญามาตรฐาน โดยระบุรายละเอียดที่ชัดเจน เช่น รายละเอียดของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่ให้เช่า, หน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจและผู้บริโภค, ระยะเวลาเช่า สถานที่ส่งมอบและส่งคืน, จำนวนเงินและวิธีการชำระค่าเช่า, เงื่อนไขการจัดหารถทดแทน, ข้อห้ามในการระบุสัญญาที่ให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจบอกเลิกสัญญาหรือริบเงินประกันโดยไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ประกาศฯ จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป

ดร.อรุณ เปิดเผยว่า โครงการนี้สอดคล้องกับนโยบาย Quick Big Win” ของนายสันติ ที่มุ่งลดภาระค่าครองชีพและคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค โดยเน้นให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมเช่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวได้รับความคุ้มครองอย่างแท้จริง ไม่ถูกเอาเปรียบในทุกขั้นตอนของการใช้บริการ สะท้อนเจตนารมณ์ของรัฐในการยืนหยัดเคียงข้างประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับผู้บริโภคที่พบปัญหาหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสัญญาเช่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ สามารถขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน สคบ. 1166 ร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Connect เว็บไซต์ www.ocpb.co.th รวมถึง คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดทุกจังหวัด, องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น, เมืองพัทยา, สำนักงานเขตทุกแห่งในกรุงเทพมหานคร และระบบ Traffy Fondue (ทราฟฟี่ ฟองดูว์)