Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 4-11-25 (วานนี้ WASH หวั่นใจ!วันหน้าจะเป็น MRDIYT)

04 พฤศจิกายน 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 4-11-25 (วานนี้ WASH หวั่นใจ!วันหน้าจะเป็น MRDIYT)

4-11-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิมwww.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***ไม่รอด!! บาดเจ็บกันถ้วนหน้าสำหรับผู้ถือหุ้น WASH ต่ำจองตั้งแต่เปิดซื้อขายช่วงเช้า สุดท้ายปิดตลาดที่ระดับ 5.35 บาท ลดลง -2.15 บาท (จากราคาไอพีโอ 7.50 บาท) หรือลดลง -28.67% โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 871.39 ล้านบาท ส่วนวันนี้รอลุ้นกันต่อไปว่าจะ “รอด หรือ ร่วง”

***ไม่ได้บอกว่าราคาหุ้น WASH แพง หรือ ถูก หรือ เหมาะสม..แต่มีความเห็นจาก บล.ทิสโก้ ที่ระบุว่า”จากการประเมินมูลค่าเบื้องต้นด้วย PER ของดัชนี SET กลุ่ม SERVICE ที่ 21 เท่า เท่า เนื่องจากรูปแบบธุรกิจไม่มีคู่แข่งที่จดทะเบียนในตลาดอย่างชัดเจน โดยมองว่ามูลค่าเหมาะสมสำหรับปี 2569 ของบริษัทนั้นยังไม่มี upside จากราคา IPO” อืมมมมม…น่าคิด!!!

***พอเห็นแบบนี้แล้วอดเป็นห่วง MRDIYT ไม่ได้เลย!!! มีกำหนดจะเข้าซื้อขายในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ด้วยเพราะมีหลายจุดเหลือเกินที่ทำให้เจ๊ต้องคิด เริ่มตั้งแต่การขายหุ้นไอพีโอ 655,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 10.89 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้

***จุดแรกที่เป็นห่วงก้อคือตรงนี้แหล่ะ หุ้นไอพีโอที่เอามาขายครั้งนี้เช่นกันเป็นของใหม่และเจ้าของเก่าเอาออกมาขายด้วย

-หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 420,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 6.98

-หุ้นสามัญที่เสนอขายโดย MDIH (Singapore) Pte. Ltd. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 235,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 3.91  ***จุดต่อมากำหนดราคาขายไอพีโอที่ บาท/หุ้น ขณะที่หุ้นพาร์ละ 0.50 บาท โดยมีมูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) 1 บาทต่อหุ้น

***อีกจุดที่สามที่เจ๊ งง-งง..อันนี้ไม่รู้ว่า “ร้าย หรือ ดี” เพราะมีกลุ่ม “นายจอมพงษ์” ซึ่งถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 1,230,518,784 หุ้น หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 21.98 ณ วันที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรกในครั้งนี้ ได้แสดงความประสงค์ที่จะขายหุ้นสามัญเดิมของบริษัทฯ (ซึ่งหุ้นจำนวนดังกล่าวไม่ใช่หุ้นที่อยู่ภายใต้ระยะเวลาการห้ามขายหุ้น (Silent Period)) ในราคาเดียวกับราคาเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้เป็นจำนวนรวมกันไม่เกิน 245,000,000 หุ้นหรือคิดเป็นประมาณไม่เกินร้อยละ 4.07 ณ วันที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ ผ่านการซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ (Trade Report – Big Lot) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ในวันแรกที่หุ้นสามัญของบริษัทฯ เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้แก่ Mr. Tan Yu Yeh Mr. Tan Yu Wei และผู้ถือหุ้นหนึ่งรายในกลุ่มผู้ถือหุ้นสัญชาติมาเลเซียอื่น จำนวน 118,235,000 หุ้น 53,930,100 หุ้น และ 72,834,900 หุ้น ตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 1.96 ร้อยละ 0.90 และร้อยละ 1.21

***มีการระบุว่าการขายหุ้นสามัญเดิมดังกล่าวไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้และจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้นและการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 นายจอมพงษ์ ได้นำหุ้นของตน จำนวน 553,733,450 หุ้น หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 9.2 ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ (ซึ่งหุ้นจำนวนดังกล่าวไม่ใช่หุ้นที่อยู่ภายใต้ระยะเวลาการห้ามขายหุ้น (Silent Period) ไปจำนำเพื่อเป็นหลักประกันสำหรับข้อตกลงทางการเงินส่วนบุคคล ทั้งนี้ การผิดนัดภายใต้ข้อตกลงทางการเงินดังกล่าว อาจส่งผลให้ผู้ให้กู้ใช้สิทธิในการบังคับหุ้นที่จำนำไว้ และนำหุ้นดังกล่าวออกจำหน่ายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทฯ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดลง

***เฮ้อ!!! บอกได้คำเดียวเรื่องราวของ MRDIYT ซับซ้อนซ่อนเงื่อนหลายชั้นเหลือเกิน...เพราะเป็นแบบนี้เลยอยากให้นักลงทุนที่ได้หุ้นไป โปรดอ่านและศึกษาให้ละเอียด แล้วพิจารณาให้ดีนะ

***เริ่มประกาศงบการเงินประจำไตรมาส 3/68 แล้ว ..สัปดาห์นี้มีหุ้นใหญ่หลายตัวที่จะประกาศงบฯออกมา อาทิ ADVANC, GULF, GPSC, BCP, OR,TRUE, PTTGP, TOP, BH, MINT,BANPU, CPALL, THAI,COM7,CENTEL, CBG เป็นต้น ...มาค่ะลุ้นไปด้วยกัน

***อีกเรื่องที่น่าสนใจและพวกเราต้องติดตามใกล้ชิดคือการไต่สวนภาษี “ทรัมป์” โดยศาลฎีกาสหรัฐฯ มีกำหนดจะรับฟังการแถลงด้วยวาจาในวันที่ 5 พ.ย. นี้ จากการยื่นอุทธรณ์ของรัฐบาลทรัมป์ หลังศาลอุทธรณ์กลางสหรัฐฯ ยืนยันคำตัดสินตามศาลการค้าระหว่างประเทศ(CIT) ว่า ทรัมป์ ใช้อำนาจเกินขอบเขตกฎหมาย IEEPA ในการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทั่วโลก รอติดตามคำตัดสินของศาล ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และความผันผวนในราคาทองคำและค่าเงินทั่วโลก

***เรื่องสุดท้ายของวันนี้คือ ดัชนี MSCI กำหนดประกาศรายชื่อหุ้นในวันที่ 6 พ.ย.และใช้ราคาปิดวันที่ 24 พ.ย. เพื่อปรับดัชนีฯ ซึ่งจะมีผลต่อราคาหุ้นรายตัวที่ถูกนำ เข้า/ออก โดยเฉพาะหุ้นที่ถูกนำออก ติดตามการปรับน้ำหนักในหุ้นรายตัวและหุ้นไทยในดัชนีฯ และหนึ่งสัปดาห์ก่อนการปรับดัชนีฯ ราคาหุ้นดังกล่าวจะมีความผันผวนมากกว่าปกติ

WASH MRDIYT