
นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำชับ สคบ.จับตาราคาสินค้าในโครงการ 
“คนละครึ่งพลัส” ป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกเอาเปรียบจากการปรับขึ้นราคาสินค้าโดยไม่เป็นธรรม พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือทันที หากพบพฤติกรรมเข้าข่ายเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ทำเนียบรัฐบาล นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่เปิดให้ประชาชนเริ่มใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ถือเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม 
ช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
แม้โครงการ “คนละครึ่งพลัส” จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน 
แต่รัฐบาลยังเป็นห่วงประชาชนเกี่ยวกับความเป็นธรรมในการซื้อขายสินค้าและบริการ โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ประกอบการบางรายอาจฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าล่วงหน้าอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงการอย่างเต็มที่
ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มีข้อสั่งการให้ สคบ.ดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1166 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าและบริการภายใต้โครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที หากพบพฤติกรรมที่เข้าข่าย 
เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
“รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ยอมให้เกิดการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือเอาเปรียบผู้บริโภคโดยเด็ดขาด พร้อมเดินหน้ามาตรการควบคุมและตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงการอย่างเป็นธรรม” นายสันติ กล่าว
 
                                 
                             
                             
                             
                             
                             
                         
                        