กระดานข่าว

“MASTEC” พร้อมลงสนามเทรด SET 27 ต.ค.นี้ โบรกเกอร์ร่วมให้ราคาเหมาะสม 2.28-2.37 บาท ย้ำผู้ถือหุ้นใหญ่กอดหุ้นแน่น


27 ตุลาคม 2568

บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC พร้อมลงสนามเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรก 27 ต.ค.นี้ มั่นใจจะเป็น Growth Stock และ Dividend Stock วางแผนนำเงินระดมทุนสุทธิ 94 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่าย IPO) ใช้ลงทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมรองรับธุรกิจอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 40 ล้านบาท ลงทุนในธุรกิจ Synergy Products ของกลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัย 15 ล้านบาท ขยายช่องทางการตลาดครอบคลุมทั่วประเทศ 35 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 4 ล้านบาท ขณะที่โบรกเกอร์ 4 แห่งให้ราคาเหมาะสมที่ 2.28-2.37 บาท ตอกย้ำความมั่นใจกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมใจ Lock up หุ้นทั้งหมด (ไม่รวมส่วน IPO)

ภาพประกอบข่าว MASTEC.png

ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า MASTEC พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 27 ตุลาคม 2568 หมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร (IMM) ภายใต้ชื่อย่อ “MASTEC” โดยมีวิสัยทัศน์มุ่งมั่นนำเสนอโซลูชันเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมของงานระบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์ดำเนินธุรกิจกว่า 25 ปี ครอบคลุม 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล 2. กลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย 3. กลุ่มผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม

บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ฯ 4 แห่ง ให้ราคาเป้าหมาย MASTEC ปี 2569 ที่ 2.28-2.37 บาท โดย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินราคาเหมาะสมปี 2569 ที่ 2.37 บาท มองว่า MASTEC มีศักยภาพขยายธุรกิจหลังการ IPO และได้รับกระแสเงินสดรองรับการเติบโต คาดรายได้ปี 2568–2569 เติบโต 9–12% เมื่อเทียบปีก่อน จากปัจจัยหนุนความต้องการอุปกรณ์งานระบบอาคาร ทั้งโครงการใหม่และการปรับปรุงอาคารเก่า รวมถึงโอกาสต่อยอดรายได้จากผลิตภัณฑ์อนุรักษ์พลังงานที่เติบโตตามเทรนด์พลังงาน และอานิสงส์จากการจำหน่ายอุปกรณ์ระบบใน Data Center โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานจาก EPS ปี 2569 ที่ 0.217 บาท/หุ้น และอ้างอิงค่า P/E Ratio เฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี ของ HARN และ FTE ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมใกล้เคียง

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจาก บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ (MASTEC) ปิดการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 79 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 26.33% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO ซึ่งเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 17 และ 20–21 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ในราคาหุ้นละ 1.45 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุน 94 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่าย IPO) เพื่อใช้ลงทุนในธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์วิศวกรรมด้านอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 40 ล้านบาท, กลุ่มผลิตภัณฑ์ Synergy ด้านการป้องกันอัคคีภัย 15 ล้านบาท, ขยายช่องทางการตลาดทั่วประเทศ 35 ล้านบาท โดยเตรียมเปิดสาขาในหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 4 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวม 395.53 ล้านบาท โดยโครงสร้างรายได้แบ่งเป็น ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล 64.32%, การป้องกันอัคคีภัยและความปลอดภัย 30.48%, นวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 5.19% ทั้งนี้ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างโดดเด่นจากการรับรู้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3–4 ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 ในเดือนพฤศจิกายน

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า MASTEC พร้อมเทรดในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 27 ตุลาคมนี้ หลังจากเสนอขาย IPO จำนวน 79 ล้านหุ้น หรือ 26.33% ของหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 1.45 บาท คิดเป็นอัตรา P/E Ratio 9.06 เท่า มีนักลงทุนจองซื้อทั้งสิ้น 1,377 ราย โดยได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรก (IPO) ซึ่งมี บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ร่วมกับ บล.โกลเบล็ก, บล.ไอร่า และ บล.บียอนด์ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันและรายบุคคล

นายดุษฎี มีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมสเทค ลิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTEC เปิดเผยว่า แผนการเติบโตระยะ 3–5 ปี เน้นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงจากเทรนด์ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และมุ่งสู่ Net Zero ควบคู่กับการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศ สุขาภิบาล และการป้องกันอัคคีภัย โดย MASTEC มุ่งเป็นผู้นำเสนอโซลูชันพร้อมเทคโนโลยีวิศวกรรมงานระบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร

“ส่วนตัวผมและผู้ถือหุ้นเดิมทุกท่าน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 3 ท่าน ขอย้ำว่าเราสร้างธุรกิจนี้มาด้วยกันอย่างยาวนาน ต้องการเห็นการเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืนตามหลักบรรษัทภิบาล พร้อมสร้างทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ และด้วยมาตรฐานของตลาดทุนจะช่วยให้ MASTEC ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง” นายดุษฎีกล่าว

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรก หลัง IPO ได้แก่ 1. นายดุษฎี มีชัย ถือหุ้น 25% 2. นายกำธร คุณานพรัตน์ ถือหุ้น 25% 3. ดร.ร่มโพธิ์ สุวรรณิก ถือหุ้น 24.55% ผู้ถือหุ้นทั้ง 3 ท่านพร้อมใจ Lock up หุ้นทั้งหมด (ไม่รวมส่วน IPO) เนื่องจากมั่นใจว่าธุรกิจกำลังเติบโตจาก New S-Curve ด้านนวัตกรรมและสิ่งแวดล้อม พร้อมนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของกิจการและผู้ถือหุ้นเป็นหลัก