วานนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WORLD ECONOMIC OUTLOOK) แต่ที่น่าสนใจ คือ เศรษฐกิจไทย IMF คาดขยายตัว 2% ในปีนี้ ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในกลุ่ม ASEAN แต่นักวิเคราะห์มองนโยบายการคลัง อาจเข้ามาช่วยได้ถูกจังหวะ ซึ่งน่าจะเป็นแรงส่งให้ GDP ไทยเติบโตได้เกิน 2%
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า IMF เผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) โดยมีประเด็นสำคัญ คือ โลก ปรับเพิ่ม GDP Growth โลกปี 2568 ขยายตัว 3.2% (เพิ่มขึ้นจาก 3% ที่คาดเดือน ก.ค.) และปี 2569 คาด 3.1% (ไม่เปลี่ยนแปลง)
สหรัฐ ปรับเพิ่มปี 2568 คาดขยายตัว 2%(เพิ่มขึ้นจาก 1.9%) ยูโรโซนปรับเพิ่มปี 2568 คาด 1.2% (เพิ่มขึ้นจาก 1.0%) จีนคาดขยายตัว 4.8% (ไม่เปลี่ยนแปลง)
ส่วนไทยปี 2568 คาดที่เดิม 2.0% ในปีนี้(ไม่เปลี่ยนแปลง) ปี 2569 คาดลดลงเหลือ 1.6% (จากเดิม 1.7%) อัตราการเติบโตของไทยถือว่า ต่ำที่สุดในกลุ่ม ASEAN-5 โดยต่ำกว่าเวียดนาม (6.5%), ฟิลิปปินส์ (5.4%), อินโดนีเซีย (4.9%) และมาเลเซีย (4.5%) สอดคล้องกับมุมมอง Asset Allocation ที่คงมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย และตลาดหุ้นจีน โดยให้น้ำหนัก Slightly Over weight
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ประเด็น IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WORLD ECONOMIC OUTLOOK) โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจ (GDP)โลกประจำปีนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.2% ในปี 2568 เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ค.68 ที่ระดับ 3.0%
ส่วนประเทศอื่นๆในแถบประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ก็ถูกปรับประมาณการ GDP ขึ้นเช่นกัน จากหลายเหตุผล อาทิ ผลของมาตรการคว่ำบาตร/ภาษี (TARIFFS) รวมถึงระดับการตอบโต้ที่เบากว่าคาดในช่วงที่ผ่านมา และ นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายกว่าที่ IMF คาดในบางตลาด
สำหรับไทย IMF คาด GDP ไทยโต 2% ปีนี้ ต่ำสุดในกลุ่ม ASEAN-5 แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 68 เศรษฐกิจจะยังคงมีเสถียรภาพ บวกกับคาดหวังการฟื้นตัวจากการท่องเที่ยวช่วยหนุน แต่การลงทุนเอกชนชะลอและปัจจัยโครงสร้าง (ประชากรสูงวัย การเติบโตของกำลังซื้อในประเทศชะลอ) ฉุดภาพรวมเศรษฐกิจไทยในอนาคต
อย่างไรก็ตามนโยบายการคลัง อาจเข้ามาช่วยได้ถูกจังหวะ โดยการประชุม ครม.วานนี้ มีนโยบายกระตุ้นทั้งงาน AMAZING THAILAND MARATHON BANGKOK วงเงินงบประมาณ 456 ล้านบาท บวกกับงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ปี 69 วงเงิน 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งจะไปลงทุนในปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้า (ภาคต่าง ๆ), รถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา (ไทย-จีน), รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ เป็นต้น คาดว่าจะช่วยผลักดันให้ GDP โตขึ้นได้อีก 0.3% รวมถึงอาจมีมาตรการ “ท่องเที่ยวเมืองรอง” ที่เตรียมเสนอเข้า ครม. โดยเสนอสิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่า สูงสุดไม่เกิน 40,000 บาท เพื่อจูงใจให้ไปเที่ยวจังหวัดที่ไม่ใช่จุดหมายหลัก ซึ่งน่าจะเป็นแรงส่งให้ GDP ไทยเติบโตได้เกิน 2%
อีก 1 ประเด็นที่ช่วยเศรษฐกิจไทย คือ รัฐบาลได้แต่งตั้ง คุณเอกนิติเป็น ประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์เจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เป้าหมายการเจรจาคือ “ลดอัตราภาษี” ให้ต่ำกว่าหรืออย่างน้อยไม่เกินระดับปัจจุบันที่ 19% เพื่อปกป้องภาคการส่งออก เกษตร อุตสาหกรรม โดยคาดว่าข้อตกลงใหม่ควรแล้วเสร็จภายใน 4 เดือนนี้ จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ยอดนิยม
_0.jpg)
AOT จ่อรับกำไรเพิ่ม! อีกกว่า 250-300 ล้านบาทต่อปี หลังกพท.เตรียมเสนอขึ้นค่า PSC
_0.jpg)
DOD รับทรัพย์ “เจนนี่ ฟีเวอร์” ไลฟ์สดสุดปัง! ดันยอดสั่งผลิตพุ่ง 20-30% จับตาอินฟลูฯ จ่อคิวไลฟ์เพียบ หนุนออเดอร์ Q4
_0.jpg)
โบรกฯ อัพเกรด OR แนะนำเป็น “ซื้อ” เพิ่มเป้า 15.5 บาท รับมาร์เก็ตแชร์พุ่ง-ค่าการตลาดโต
%20copy_0.jpg)
ทองคำพุ่งต่อ! ชัตดาวน์สหรัฐยืดเยื้อ สองพรรคยังไร้ข้อตกลงงบชั่วคราว Shining Gold ชี้เทรนด์ขาขึ้นยังแข็งแรง
%20copy_0.jpg)