รายงานพิเศษ : EP โดดเด่นต่อเนื่อง เศรษฐกิจเวียดนามโตเกินคาด หนุนความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เติบโตต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามที่แข็งแกร่ง โดยโครงการ HL4 เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) และรับรู้รายได้ตั้งแต่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา


 
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ว่า ในปี 2025  เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตดีกว่าคาดการณ์เดิมมาอยู่ที่ 7.5% จาก 6.7% จากตัวเลขเศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสที่ 3 ที่ดีกว่าคาดมาก ซึ่งเป็นผลจากการเร่งตัวขึ้นของการลงทุนภาครัฐ และการส่งออกไปสหรัฐฯที่ดีกว่าคาด  ซึ่งเป็นผลจากการเร่งตัวขึ้นของการลงทุนภาครัฐ และการส่งออกไปสหรัฐฯที่ดีกว่าคาด
 
ขณะที่การปฏิรูประบบราชการเชิงโครงสร้างครั้งใหญ่ (Doi Moi 2.0)  จะเป็นปัจจัยหลักหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามในระยะ 3-5 ปี ข้างหน้า  จากปัจจัยสนับสนุนได้แก่ 
 
1.ลดต้นทุนทางธุรกิจเพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน โดยการลดขนาดของระบบราชการลง 30% ผ่านการควบรวมกระทรวงและกรมต่าง ๆ ทำให้ลดกฎระเบียบที่ซ้ำซ้อนลดลงไปมาก เพื่อจะได้เร่งการอนุมัติโครงการที่ค้างรอการอนุมัติทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายใน 4-8 ไตรมาสข้างหน้า 
 
2.ยกบทบาทของภาคเอกชนให้เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจเวียดนาม โดยตั้งเป้าจะสร้างบริษัทเอกชนขนาดใหญ่อย่างน้อย 20 บริษัท เพื่อให้บริษัทเวียดนามเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่มูลค่าโลก   (Global value chain) ในอุตสาหกรรมไฮเทค
 
3.ภาครัฐบริหารทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเร่งการลงทุนภาครัฐ การลดขนาดของระบบราชการจะทำให้สามารถจัดสรรงบประมาณไปเพิ่มการลงทุนภาครัฐ ทั้งโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รวมทั้งการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม
 
ขณะเดียวกันรัฐบาลเวียดนามวางแผนจะลงทุน 250 โครงการทั่วประเทศมูลค่า 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 10% ของ GDP เวียดนาม) ในช่วงปี 2025-2030 เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตเร่งขึ้นอีก 1-2% ในระยะข้างหน้า  
 
การเติบโตอย่างโดดเด่นของเศรษฐกิจเวียดนาม ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนธุรกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานให้มีความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าของ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP)
 
ที่บริษัท แจ้งว่า EPVN W1 (HK) Company Limited (EPVN W1) และ EPVN W2 (HK) Company Limited (EPVN W2) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของ บมจ.อีเทอร์นิตี้พาวเวอร์ (ETP) ที่ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 และบริษัทถือหุ้นใน ETP สัดส่วนร้อยละ 81.40% ได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 160 เมกะวัตต์
 
โดย 2 โครงการ คือ HL3 และ HL4 กำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดกว๋างจิ และอีก 2 โครงการ อยู่ในจังหวัดยาไล กำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม (Vietnam Electricity หรือ EVN) ระยะเวลา 20 ปี
         
EPVN W1 ได้รับหนังสือแจ้งจาก EVN เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 ให้โครงการ HL4 ขนาดกำลังการผลิต 30.00 เมกะวัตต์ เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้แก่ EVN โดยเริ่มนับวัน COD ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 ในอัตรารับซื้อไฟฟ้า (Feed in Tariff หรือ FIT) ระยะแรกที่ 1,587.12 ดองเวียดนามต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงและเริ่มรับรู้รายได้โครงการตั้งแต่วัน COD เป็นต้นไป ส่วนของโครงการที่เหลืออีก 2 โครงการ คาดว่าจะทยอย COD ตามลำดับ