Fund / Insurance
BKI ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปี69โต5-6% หลุมยุบถนนสามเสนกำลังประเมินความเสียหาย
09 ตุลาคม 2568
กรุงเทพประกันภัยตั้งเป้าปี 69 เบี้ยประกันภัยรับรวมโต 5-6% จากปีนี้เติบโต 2.6-3% ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล หวังเศรษฐกิจเติบโตดีขึ้น ส่วนผลประกอบการปีนี้มั่นใจรักษาผลงานได้ดีเท่าปีก่อน ส่วนกรณีหลุมยุบที่ถนนสามเสน อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย แต่บริษัทฯ จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า 1% ของมูลค่าความเสียหายรวมที่เกิดขึ้น

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้การเติบโตค่อนข้างชะลอตัว คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 2% ผลจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง ทำให้การใช้จ่ายของประชาชนปรับลดลง การส่งออกมีปัญหาจากปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่า รวมถึงนโยบายภาษีจากสหรัฐ ซึ่งเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้การเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับลดลงไปในทิศทางเดียวกัน
โดยตลาดประกันภัยปีนี้คาดว่า ภาพรวมธุรกิจประกันภัยจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 1.6-2% ซึ่งต้องติดตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่ง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น
"ปีนี้เบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทจะเติบโตได้ 2.6-3% หรือ คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 32,500 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดไว้ 8% หรือ คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 34,200 ล้านบาท เพราะตลาดรถยนต์เกิดการแข่งขันที่สูง มีการปรับเบี้ย ตัดราคา เบี้ยประกันนาข้าวก็ไม่เกิด ทำให้เบี้ยหายไปประมาณ 160 ล้านบาท"
ดร.อภิสิทธิ์ ยังมั่นใจว่า แม้การเติบโตจะลดลง แต่ผลประกอบการของบริษัทหรือ Bottom line จะยังรักษาระดับการเติบโตได้ดีเท่ากับปีก่อนๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทมีการคัดเลือกงาน ไม่ลงไปแข่งขันเรื่องราคา โดยเฉพาะประกันรถยนต์ และประกันทรัพย์สิน คอนโดที่มีการตัดราคากันรุนแรง
ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยมาจากยอดขายรถยนต์ที่เติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ EV โดยมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีก่อน แต่บริษัทจะไม่เข้าไปแข่งขันกับตลาด ทำให้พอร์ตรถยนต์ของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาติดลบเกือบ 5% และ เบี้ยประกันภัยรถยนต์ก็ไม่เติบโต แต่เชื่อว่าในครึ่งปีหลังงานจากโครงการเมกะโปรเจกต์จะเติบโตมากขึ้น
ส่วนเงินลงทุนตามราคาทุนทั้งสิ้น ณ ปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่ 36,000-37,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนการลงทุนยังคงเป็นเงินฝากประจำ และ หุ้น
สำหรับความเสียหายกรณีที่ถนนสามเสนทรุดตัวบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ดร.อภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหายทั้งในส่วนทรัพย์สินบุคคลภายนอกและความเสียหายของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งบริษัทกรุงเทพประกันภัยได้เข้าร่วมรับประกันภัย 40% ของมูลค่ารวม ดังนั้น เมื่อสามารถสรุปความเสียหายได้แล้วบริษัทฯ ก็จะชดใช้ความเสียหายตามสัดส่วนที่รับประกันภัยไว้ แต่ทั้งนี้จะไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการของบริษัทฯ เนื่องจากกรุงเทพประกันภัยได้จัดสรรการประกันภัยต่อออกไปกว่า 99% ซึ่งบริษัทฯ จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า 1% ของมูลค่าความเสียหายรวมที่เกิดขึ้น

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้การเติบโตค่อนข้างชะลอตัว คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 2% ผลจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง ทำให้การใช้จ่ายของประชาชนปรับลดลง การส่งออกมีปัญหาจากปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่า รวมถึงนโยบายภาษีจากสหรัฐ ซึ่งเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้การเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับลดลงไปในทิศทางเดียวกัน
โดยตลาดประกันภัยปีนี้คาดว่า ภาพรวมธุรกิจประกันภัยจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 1.6-2% ซึ่งต้องติดตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่ง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น
"ปีนี้เบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทจะเติบโตได้ 2.6-3% หรือ คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 32,500 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดไว้ 8% หรือ คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 34,200 ล้านบาท เพราะตลาดรถยนต์เกิดการแข่งขันที่สูง มีการปรับเบี้ย ตัดราคา เบี้ยประกันนาข้าวก็ไม่เกิด ทำให้เบี้ยหายไปประมาณ 160 ล้านบาท"
ดร.อภิสิทธิ์ ยังมั่นใจว่า แม้การเติบโตจะลดลง แต่ผลประกอบการของบริษัทหรือ Bottom line จะยังรักษาระดับการเติบโตได้ดีเท่ากับปีก่อนๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทมีการคัดเลือกงาน ไม่ลงไปแข่งขันเรื่องราคา โดยเฉพาะประกันรถยนต์ และประกันทรัพย์สิน คอนโดที่มีการตัดราคากันรุนแรง
ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยมาจากยอดขายรถยนต์ที่เติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ EV โดยมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีก่อน แต่บริษัทจะไม่เข้าไปแข่งขันกับตลาด ทำให้พอร์ตรถยนต์ของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาติดลบเกือบ 5% และ เบี้ยประกันภัยรถยนต์ก็ไม่เติบโต แต่เชื่อว่าในครึ่งปีหลังงานจากโครงการเมกะโปรเจกต์จะเติบโตมากขึ้น
ส่วนเงินลงทุนตามราคาทุนทั้งสิ้น ณ ปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่ 36,000-37,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนการลงทุนยังคงเป็นเงินฝากประจำ และ หุ้น
สำหรับความเสียหายกรณีที่ถนนสามเสนทรุดตัวบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ดร.อภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหายทั้งในส่วนทรัพย์สินบุคคลภายนอกและความเสียหายของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งบริษัทกรุงเทพประกันภัยได้เข้าร่วมรับประกันภัย 40% ของมูลค่ารวม ดังนั้น เมื่อสามารถสรุปความเสียหายได้แล้วบริษัทฯ ก็จะชดใช้ความเสียหายตามสัดส่วนที่รับประกันภัยไว้ แต่ทั้งนี้จะไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการของบริษัทฯ เนื่องจากกรุงเทพประกันภัยได้จัดสรรการประกันภัยต่อออกไปกว่า 99% ซึ่งบริษัทฯ จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า 1% ของมูลค่าความเสียหายรวมที่เกิดขึ้น