กระดานข่าว

"GCAP GOLD" ชี้ 3 ปัจจัยหนุนทองคำ ลุ้นแตะ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์


08 ตุลาคม 2568

บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ส่งสัญญาณบวกราคาทองยังไปต่อ ลุ้นแตะ4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รับแรงหนุนดอกเบี้ยขาลง - เงินเฟ้อสูง - ดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่ กองทุน ETF - ธนาคารกลางแห่สะสมเพียบ หนุนทองคำทะยานต่อ ด้านนักวิเคราะห์ แนะระยะสั้น จับตา "ชัตดาวน์สหรัฐฯ" อย่างใกล้ชิด ส่วนระยะกลาง-ยาว แนะนำกลยุทธ์ทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว แนวรับ $3,800

Info-PR-07102025_0_11zon.jpg

นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า หลังจากราคาทองคำพุ่งแรงทะลุระดับ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางความคาดหวังว่ากระแสเงินลงทุนจะยังคงไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย และหากมีแรงหนุนต่อเนื่องราคาทองคำก็มีโอกาสแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นแรงหนุนจาก 

1. วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง : โดยการที่เฟดเริ่มเข้าสู่รอบการปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ต้นทุนการถือครองทองคำลดลง พร้อมกระตุ้นความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัยให้เพิ่มขึ้น

2. เงินเฟ้อยังทรงตัวสูงกว่ากรอบเป้าหมายของเฟด : ต่อกรณีดังกล่าวส่งผลให้ทองคำ ยังโดดเด่นในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากการด้อยค่าของสกุลเงิน 

3. ดอลลาร์อ่อนค่าและความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ : จากสถานการณ์ชัตดาวน์รัฐบาลกลางและแรงกดดันต่อเฟด ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์ลดลง และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนให้นักลงทุนหันกลับมาถือทองคำมากขึ้น 

“นอกจากนี้ การมีแรงซื้อจากภาคเอกชน โดยเฉพาะกองทุน ETF ยังกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเพิ่มการถือครองทองคำกว่า 100 ตัน ซึ่งสูงที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ประกอบกับธนาคารกลางหลายประเทศยังคงเดินหน้าสะสมทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงของทุนสำรองระหว่างประเทศ ขณะที่ประเทศจีนยังคงเดินหน้าเร่งผลักดันบทบาทของเงินหยวนและสร้างเครือข่ายการจัดเก็บทองคำในภูมิภาคเอเชีย เพื่อตอกย้ำสถานะของตัวเองในตลาดโลก”

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์ GCAP GOLD  ยังประเมินว่า ภาพรวมราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเชิงบวก โดยมองเชิงจิตวิทยาว่าราคาทองลุ้นแตะ 4,000 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญ ภายใต้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อทั้งกองทุนและธนาคารกลางยังดำเนินต่อไป     

ส่วนกลยุทธ์ระยะสั้น ในสัปดาห์นี้แนะให้ติดตามสถานการณ์การชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ  ทั้งนี้หากการปิดทำการยืดเยื้อจะเป็นปัจจัยบวก แต่หากมีข้อตกลงเปิดทำการขึ้นมาใหม่ อาจนำไปสู่แรงขายทำกำไรระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากราคาย่อตัวแต่ยังยืนเหนือ $3,800 ได้ ยังมองเป็นการย่อระยะสั้นเพื่อไปต่อ และมีแนวรับสำหรับย่อซื้อที่ 3,900/$3,845 (ราคาทองคำไทยประมาณ 59,900/59,200 บาท) ส่วนการปรับตัวขึ้นแนวต้านสำคัญในสัปดาห์นี้คือระดับ $4,000 (ราคาทองคำไทยประมาณ 60,300+/- บาท)