รายงานพิเศษ : TGE รับอานิสงส์โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ แนวโน้มการรับซื้อไฟมีความต้องการสูง ไทยพร้อมด้านวัตถุดิบแหล่งผลิตสินค้าเกษตร

บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่  (TGE) รับอานิสงส์ แนวโน้มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในไทยบูม ปี โดยเฉพาะไฟฟ้าชีวมวล  เนื่องจากมีความเสถียรและยืดหยุ่นด้านการผลิตมากกว่าเชื้อเพลิงหมุนเวียนประเภทอื่นๆ รวมถึงยังมีความพร้อมทางด้านวัตถุดิบ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในไทย  โดยระบุว่า ในปี 2569 ความต้องการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมีทิศทางเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน โดยปริมาณไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ขายให้ภาครัฐคาดว่าจะอยู่ที่ 24,303 GWh และภาคเอกชนคาดว่าจะอยู่ที่ 4,249 GWh เพิ่มขึ้น 2.8% และ 8% ตามลำดับ

ซึ่งไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ผู้ประกอบการจำหน่ายมากที่สุดในปี 2569 ได้แก่ ไฟฟ้าชีวมวลและแสงอาทิตย์ตามลำดับ มีสัดส่วนรวมกันเป็น 79% ของไฟฟ้าที่จำหน่ายให้ภาครัฐ และ 96% ของไฟฟ้าที่จำหน่ายให้ภาคเอกชน

ทั้งนี้ไฟฟ้าชีวมวลยังคงถูกใช้ในการผลิตไฟฟ้ามากที่สุด เนื่องจากมีความเสถียรและยืดหยุ่นด้านการผลิตมากกว่าเชื้อเพลิงหมุนเวียนประเภทอื่นๆ รวมถึงยังมีความพร้อมทางด้านวัตถุดิบ เพราะประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตร อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้า ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จะมีการใช้งานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นแหล่งเชื้อเพลิงหลักในที่สุด ตามเป้าหมายในร่าง AEDP  พ.ศ. 2567-2580 ที่ตั้งเป้าให้ 68%  ของไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในปี 2580 มาจากพลังงานแสงอาทิตย์

ในปี 2569 โรงไฟฟ้าชีวมวล คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งจากการขายให้ภาครัฐและเอกชน ในขณะเดียวกัน สำหรับธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ความต้องการก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกันทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน สะท้อนถึงภาพรวมธุรกิจที่มีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง

ความต้องการและการเติบโตการใช้พลังงานสะอาด โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ส่งผลดีต่อธุรกิจของ บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่  (TGE)  ในฐานะผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยปัจจุบันประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะชุมชน รวมทั้ง การรับบริหารจัดการโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอื่นๆ

ซึ่งบริษัทแจ้งความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนของบริษัทว่า โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ได้รับคัดเลือกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เรียบร้อยแล้วมีจำนวน 6 โครงการ โดยมีกําลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 46.8 MW ได้แก่

โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES SKW  อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว , โครงการโรงไฟฟ้าขยะ TES CPN อ.เมือง  จ.ชุมพร  , โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน  TES RBR  อ.เมือง  จ.ราชบุรี , โครงการโรงไฟฟ้าขยะ TES CNT  อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท  และโครงการโรงไฟฟ้า TES TCN จ.สมุทรสาคร  ซึ่งเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เรียบร้อยแล้ว  ทั้งนี้ TES CPN และ TES RBR ได้เริ่มงานก่อสร้างโดยผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการแล้ว

โครงการโรงไฟฟ้า TES UBN   จ.อุบลราชธานี นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมการเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)อีก 1 โครงการ

TGE ยังประสบความสำเร็จคว้า คะแนนเต็ม 100 คะแนน ระดับ "ดีเยี่ยมสมควรเป็นตัวอย่าง (Excellent)" ในการประเมิน AGM Checklist ปี 2568  ที่จัดโดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยและสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ผลการประเมินครั้งนี้สะท้อนถึง ความมุ่งมั่นของ TGE ในการดำเนินธุรกิจด้วยหลักบรรษัทภิบาล โปร่งใส และเคารพสิทธิผู้ถือหุ้น ควบคู่กับการพัฒนากระบวนการจัดประชุมผู้ถือหุ้นให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล