รายงานพิเศษ : SFLEX รับมือเศรษฐกิจผันผวน เดินหน้าบริหารต้นทุน-เปิดรับ Strategic Partner นักวิเคราะห์ย้ำพื้นฐานแกร่ง- Valuations ถูก

บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) เตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ เล็งลงทุนธุรกิจต้นน้ำ บริหารต้นทุน เปิดรับพันธมิตร เสริมศักยภาพทางธุรกิจ ขณะที่โบรกเกอร์ยังคงแนะนำซื้อ มองเป็นหุ้นที่พื้นฐานแข็งแกร่ง และมี Valuations ถูก 

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจไทยและต่างประเทศ  ซึ่งเป็นความท้าทายที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง การเตรียมรับมือกับปัจจัยความท้าทายนี้เป็นสิ่งที่ผู้บริหาร บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (FLEX) ให้ความสำคัญอย่างมาก โดย นายสมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ กลยุทธ์ครึ่งปีหลังบริษัทเดินหน้าบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วยการติดตั้ง Solar Rooftop ขนาด 0.99 เมกะวัตต์ และลงทุนเพิ่มอีก 1.5 เมกะวัตต์ คาดเริ่มจ่ายไฟฟ้าในไตรมาส 3/68 มีการลงทุนในเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ขยายการรองรับการผลิตที่ซับซ้อนขึ้น รวมทั้งมีการปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อรองรับการผลิตที่สามารถสินค้าที่สามารถ recycle และย่อยสลายได้

SFLEX ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลธุรกิจต้นน้ำ หลายประเภทเพื่อสามารถควบคุมกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้ความสำคัญทั้งด้านการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี รวมถึง Strategic Partner ซึ่งอาจนำไปสู่การร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ สร้างโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/68 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 467.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 452.4 ล้านบาท  ซึ่งรายได้จากการขายในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ มีทั้งการเปลี่ยนรูปแบบ โครงสร้าง และการเพิ่มมูลค่าเพิ่ม ให้กับฐานลูกค้าเดิม โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 23.7% และมีกำไรสุทธิ 53.2 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 11.3%

ส่วนผลงานครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 959.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 937.4 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24.1% และมีกำไรสุทธิ 118.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.6%  สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและการรักษาความสามารถในการทำกำไรท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจ

"แม้ในไตรมาส 2 จะมีวันหยุดยาวมากกว่าปกติ แต่บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงสนับสนุนจากความต้องการใช้สินค้ากลุ่มอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การส่งมอบงานที่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน Starprint Vietnam ในประเทศเวียดนาม"

ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ออกบทวิเคราะห์ โดยคาดการณ์แนวโน้มครึ่งหลังของปี 2568  จะปรับตัวดีขึ้นตามฤดูกาลและเป็นการเติบโตจากปริมาณขาย ขณะที่ราคน้ำมันที่มีทิศทางปรับลงชัดเจนอาจทำให้ลูกค้าขอเจรจาต่อรองราคา

แต่อย่างไรก็ตาม เรายังคงแนะนำซื้อ ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ SFLEX และ Valuations ที่ถูก  โดยมี 2025E P/E เพียง 9.2x และ EV/EBITDA 8.9x