Talk of The Town

การเมืองความเสี่ยงรอบด้าน โบรกฯ ชี้ หาก “ประชาชน” ไม่โหวต เข้าทาง “ประยุทธ์” หวนเป็นนายกฯ


02 กันยายน 2568

เกาะติดสถานการณ์การเมืองไทย นักวิเคราะห์ชี้ มีหลายทางเลือกที่เป็นไปได้ พร้อมข้อจำกัดและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน หากพรรคประชาชนไม่เลือกใครเลย อาจนำไปสู่ 3 สถานการณ์ที่พรรคไม่ต้องการ คือ พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำชุดเดิม, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ หรือเกิดสุญญากาศทางการเมือง นำไปสู่ "อำนาจนอกระบบ"

การเมืองความเสี่ยงรอบด้าน_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า จุดเปลี่ยนทางการเมืองไทย ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดโดยสถานการณ์ทางการเมืองไทยอยู่ในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ และความชอบธรรม พรรคประชาชนได้นำเสนอโมเดลที่ไม่ร่วมรัฐบาล แต่ใช้เสียงที่มีอยู่เป็นอำนาจต่อรองเพื่อให้เกิดการยุบสภาภายใน 4 เดือน จัดประชามติแก้รัฐธรรมนูญ และไม่เข้าร่วมรัฐบาลโดยการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ มีหลายทางเลือกที่เป็นไปได้ พร้อมข้อจำกัดและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน

ทางเลือกที่ 1 ชัยเกษมเป็นนายกฯ (เพื่อไทย  พรรคประชาชน) ข้อดี: เสียงเกิน 247 แน่นอนข้อเสีย : เงื่อนไขของพรรคประชาชน ก็จะขี่คอและเป็นคู่แข่ง และ "ถ้าแก้รัฐธรรมนูญมีประเด็น แตะสถาบันหรือเอื้อประโยชน์นักการเมืองก็จะทำให้วุ่นวายในสภา

ทางเลือกที่ 2 อนุทินเป็นนายกฯ (ภูมิใจไทย  พรรคประชาชน พรรคร่วมเดิมบางส่วน) ข้อดี: เสียงเกิน 247 เช่นกัน ข้อเสีย รัฐบาลใหม่ก็จะติดเงื่อนไขพรรคประชาชนเหมือนทางเลือกที่ 1 จะทำอะไรในสภาต้องขอพรรคประชาชน พรรคประชาชนก็จะคุมเกม คุณอนุทินจะเป็นเหมือนผู้บริหารบริษัท แต่มีพรรคประชาชนที่ถือเสียงส่วนใหญ่

ทางเลือกที่ 3 พรรคเพื่อไทยยุบสภา (จากอำนาจรักษาการนายกฯ) ข้อเสีย นักกฎหมายใหญ่ 2 ท่าน (อ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และ อ.ปกรณ์ นิมปันธ์) ระบุว่ารักษาการนายกฯ ไม่มีอำนาจยุบสภา หากฝืนจะถูกตีตกได้

ทางเลือกที่ 4 เพื่อไทย ภูมิใจไทย ร่วมกันโหวตนายกฯ มาตรา 5 (นายกรัฐมนตรีพระราชทาน) ข้อเสีย ไม่เกิดผลประโยชน์กับทั้งพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย

และหากพรรคประชาชนไม่เลือกใครเลย อาจนำไปสู่ 3 สถานการณ์ที่พรรคไม่ต้องการ คือ 1.พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำชุดเดิม 2.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ (โดยเพื่อไทยและภูมิใจไทยจับมือกัน) และ3.เกิดสุญญากาศทางการเมือง นำไปสู่ "อำนาจนอกระบบ"

อย่างไรก็ตาม มองว่า การเมืองยังไม่ถึงทางตัน หนุนตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่งกว่าภูมิภาค วานนี้ บวก 0.64% เป็นอันดับ 2 ในเอเชีย รองจาก จีน ที่บวก 2.2% พร้อมกับต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิ 347 ล้านเหรียญ 

ขณะที่ค่าเงินบาทอยู่ในโซนแข็งค่า พร้อมกับราคาน้ำมันเริ่มฟื้น 1.3% ในวานนี้ ดีต่อหุ้นไทยที่อิงราคา COMODITY ถึง 1 ใน 3 แนะนำหุ้นเด่น PTTEP, CPALL, SPALI และ DR : LVMH01, TENCENT80