Talk of The Town

SA เตรียมออกหุ้นอายุ 1 ปี 3 เดือน ชูผลตอบแทน 6.50% ต่อปี จ่ายทุก 3 เดือน คาดเปิดจอง 25-27 เม.ย.นี้


21 มีนาคม 2566
บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) ยื่นแบบ Filing ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 2/2566 อายุ 1 ปี 3 เดือน ชูผลตอบแทน 6.50% ต่อปี จ่ายทุก 3 เดือน คาดจะเปิดจองระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย. นี้ ระดมทุนรองรับแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ และชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนด ฟากบิ๊กบอส “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” ระบุหุ้นกู้ทุกรุ่นของบริษัทฯ สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตรงตามกำหนดเวลาทุกครั้ง และได้ใช้เงินที่ได้มาตรงตามวัตถุประสงค์ สะท้อนประสิทธิภาพในการบริหารสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 66 โต 130% จากปีก่อนแตะ 6,000 ล้านบาท มาจากธุรกิจอสังหาฯ ประมาณ 5,500 ล้านบาท และส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจอื่นๆ รับอานิสงส์การกลับมาของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเสริม ดันผลงานปีนี้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ข่าวลูกค้า SA เตรียมออกหุ้นอายุ 1 ปี 3 เดือน210323.jpg
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA)  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกหุ้นกู้ อายุ 1 ปี 3 เดือน อัตราผลตอบแทน 6.50%  ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยคาดว่าจะเปิดจองได้ระหว่างวันที่ 25 – 27 เมษายน 2566 นี้  

สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินไปใช้สำหรับ ชำระคืนหุ้นกู้รุ่น SASST235A และเพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ โดยเฉพาะโครงการ Landmark @MRTA พระราม 9 ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาทอยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2566 พร้อมสำหรับการทยอยโอนมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาทภายในปีนี้ พร้อมกันนี้เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน

ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ SA สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดจำหน่าย 9 แห่ง  ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด , บริษัท หลักทรัพย์เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน)

"หุ้นกู้ SA ทุกรุ่นที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถจ่ายอัตราดอกเบี้ยได้ครบถ้วน และตรงตามกำหนดทุกรุ่น ขณะเดียวกันเงินที่ได้รับจากการระดมทุนทุกครั้งได้นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯ สามารถบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพในการรุกขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาโครงการแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 50-50 พร้อมกับมีแผนการขยายฐานรายได้จากธุรกิจอื่นๆ อย่างชัดเจน เพื่อสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว" นายขจรศิษฐ์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้โตไม่น้อยกว่า 130% จากปีก่อน โดยแตะที่ระดับ 6,000 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยคาดการณ์รายได้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประมาณ 5,500 ล้านบาท สามารถแบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบประมาณ 2,000 ล้านบาท และโครงการ Landmark @MRTA พระราม 9 ประมาณ 2,000 ล้านบาท และมาจากโครงการที่เป็น Ready to Move ประมาณ 1,500 ล้านบาท และมาจากรายได้อื่นๆ ประมาณ 500 ล้านบาท  

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน จำนวน 11 โครงการ มูลค่า 4,201.2 ล้านบาท และมีโครงการอยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง จำนวน 6 โครงการ มูลค่า 22,081.2 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2568
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโครงการอสังหาฯ แนวราบใหม่จำนวน 5 โครงการได้แก่ SIAMESE KIN Ramintra , SIAMESE HOLM Phahol – Vibhavadi , SIAMESE BLOSSOM Phahol – Vibhavadi , MONSANE’ Ratchapruek-Chaeng Wattana และอีก 1 โครงการในอนาคต Housing (Phutthamonthon sai4) มูลค่ารวมประมาณ 11,225 ล้านบาท นอกจากนี้มีโครงการ Mixed Use จำนวน 2 โครงการได้แก่ Wellness & Healthcare @Talingchan Plot A และ Condominium @Talingchan Plot B อีกด้วย

ขณะเดียวกันธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม ธุรกิจให้เช่า ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจเทคโนโลยีของการพักอาศัย และธุรกิจการเงินและการลงทุน มีแนวโน้มอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากอานิสงส์การกลับมาของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ 
 “เรามุ่งมั่นสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยมีการวางแผนพัฒนาโครงการใหม่ๆ และธุรกิจอื่นๆ อยู่เสมอเพื่อให้ SA เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร จากการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสิ่งที่มีอยู่แล้วและต่อยอดธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่เด่นชัด ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น มั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นายขจรศิษฐ์ กล่าวในที่สุด
SA