ADVANC โดดเด่น! โบรกฯ ชูเป็นหุ้น Big Cap นำตลาด แถมยังมีแรงหนุนบิ๊กล็อตก้อนโต 1 หมื่นล้าน

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ประเด็น ADVANC วานนี้มีรายการซื้อ ขาย หลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ ADVANC-F จำนวน 2 รายการ กว่า 35,701,800 หุ้น ในราคาเฉลี่ยที่ระดับ 300 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 10,711 ล้านบาท 

ดังนั้นประเมินจิตวิทยาบวกต่อ ADVANC จากการซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด ผสานภาพพื้นฐานปัจจุบันทีแข็งแกร่งทั้งการต่อยอดธุรกิจใหม่ที่มีอุตสาหกรรมมีภาพบวกมาก และ ธุรกิจเดิมที่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว และมีประเด็นหนุนกำไรตลอดช่วงครึ่งหลังปี 2568

ทั้งนี้เชิงกลยุทธ์ คาดมีโอกาสที่ ADVANC อาจเป็นหุ้น Big Cap ถัดไปที่นำตลาดได้ ทางพื้นฐาน แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 300 บาท ทั้งนี้ เชิงกลยุทธ์ มองปัจจัยขับเคลื่อน สรุปได้ ดังนี้

สำหรับ ธุรกิจใหม่ (Data Center) ซึ่งถือเป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการ ภาพการเป็นศูนย์กลางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Infra Tech) ของไทยกำลังเข้าสู่จุดเร่ง ทั้งกระแสการลงทุนในอาเซียนฝั่งมาเลเซียที่เริ่มมีข้อจำกัด หนุนการลงทุน Data Center ในไทย

ภาพการเข้ามาถือหุ้นของ SEAX (ผู้ให้บริการโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำระดับภูมิภาค (Submarine Cable System Operator)) ใน ITEL ประเมินยกระดับความเชื่อมั่นให้กับตลาดกยภาพ Infra Tech ไทยในระยะถัดไป

ADVANC อยู่ในจุดได้ประโยชน์ ฝั่งต้นน้ำเรื่อง Data Center ที่คาดเน้นฐานลูกค้ากลุ่มภาครัฐฯ ตามนโยบาย Cloud First Policy และเอกชนขนาดใหญ่ผ่านการต่อยอดจากฐานลูกค้าองค์กร นอกจากนี้ การเชื่อมต่อข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในโครงข่าย หนุนปริมาณใช้งานธุรกิจโทรคมนาคมเดิม

ขณะที่ งาน Thailand Focus วันนี้เป็นที่น่าสังเกตถึงทิศทางอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะต่อยอดโดยการใช้ Data ขับเคลื่อน เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ หนุนภาพรวมข้างต้นไปได้อีกมาก

ธุรกิจเดิม (โทรคมนาคม)

สำหรับ ธุรกิจเดิม ADVANC มีแรงหนุนอุตสาหกรรมอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว หลังผ่านรอบลงทุนหนัก(3G 4G 5G) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โดยกำไรระยะสั้นเป็นบวกไตรมาส 3/2568 จะเห็นประโยชน์ต้นทุนคลื่นลดลง ผลบวก Content พรีเมียร์ลีกต่อรายได้ ตามด้วยไตรมาส 4/2568 ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจขาย iPhone รุ่นใหม่ที่ใกล้เปิดตัว

ด้าน Valuation ปัจจุบัน ADVANC มี EV/EBITDA อยู่ราว 7-8 เท่า ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับรอบเติบโตสูง ช่วงเทคโนโลยี 3G เข้ามาระยะแรก ปี 2554-66 ซึ่งซื้อขายกรอบ 10-14 เท่า หาก Upside ต่างๆ ที่มองทยอยเข้ามา ประเมินมีโอกาสเห็นภาพที่ตลาดจะ Re-rate ขึ้นได้อีกในระยะถัดไป