กระดานข่าว
BAFS โชว์ผลงานไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 56 ลบ. บอร์ดไฟเขียวปันผล 0.11 บาท XD 28 ส.ค. นี้
15 สิงหาคม 2568
BAFS ประกาศผลการดำเนินงาน BAFS Group มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ของปี 2568 จำนวน 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน ปริมาณขนส่งน้ำมันทางท่อที่เพิ่มขึ้น และการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่บอร์ดอนุมัติปันผลระหว่างกาล 0.11 บาท/หุ้น เตรียมจ่าย 11 ก.ย.นี้

ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมภาคการท่องเที่ยวครึ่งแรกของปี 2568 ชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานยังอยู่ในระดับที่เอื้อต่อธุรกิจของกลุ่มบริษัท ทำให้การดำเนินการของ BAFS Group ยังคงเติบโตและมีกำไรอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวนรวม 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ด้วยรายได้รวม 876.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ EBITDA มีจำนวน 422.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกในปี 2568 ของ BAFS Group มีกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทจำนวน 199.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 9% ตามการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจ Aviation และการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจ Utilities โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,843.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ EBITDA เติบโต 9% มาอยู่ที่ 944.4 ล้านบาท ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของผลการดำเนินงานงวดหกเดือนแรกของปี 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 และให้กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 11 กันยายน 2568
กลุ่มธุรกิจ Aviation ในช่วงครึ่งปีแรกมีการฟื้นตัวด้วยอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อย โดยมีปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานอยู่ที่ 2,679 ล้านลิตร จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 5,400 ล้านลิตร ซึ่งสอดคล้องกับการชะลอตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ในภาพรวมพบว่าการเดินทางทางอากาศยังคงมีเสถียรภาพ เนื่องจากสายการบินยังคงรักษาจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศได้ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน และแม้ว่าปริมาณการเติมน้ำมันของจีนจะลดลงเล็กน้อย แต่ในทางกลับกันจำนวนเที่ยวบินจากอินเดียแสดงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีปริมาณการเติมน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักคือการขยายเส้นทางบินตรงระหว่างเมืองรองของอินเดียกับประเทศไทย นอกจากนี้ เส้นทางการบินอื่นๆ รวมถึงเส้นทางบินภายในประเทศยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาพรวมของธุรกิจเติมน้ำมันอากาศยานได้
กลุ่มธุรกิจ Utilities มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดเชิงรุก โดยในครึ่งปีแรกมีปริมาณขนส่งน้ำมันอยู่ที่ 704 ล้านลิตร เติบโตขึ้นถึง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 55% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 1,290 ล้านลิตร นอกจากนี้ โครงการเชื่อมต่อระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 3 (อ่างทอง-สระบุรี) ในปัจจุบันมีความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการราว 32% มั่นใจเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2569 ในขณะที่ กลุ่มธุรกิจ Power ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บจ. บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่คอร์เปอเรชั่น ได้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) กำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 0.9 เมกะวัตต์แล้วเสร็จ โดยเริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ (COD) และทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
“นอกจากนี้ BAFS ได้ดำเนินโครงการยกระดับการให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ด้วยความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล เชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัตโนมัติในรูปแบบ Real-time สนับสนุนระบบการเติมน้ำมันให้มีความรวดเร็ว แม่นยำ ปลอดภัย ลดความผิดพลาด และเพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อมูล โดยการนำระบบ IRIS (Intelligent Refuelling Information System) หรือระบบจัดการเติมน้ำมันอัจฉริยะเข้าสู่กระบวนการปฏิบัติงานจริง (Go live) ในไตรมาสที่ผ่านมา”

ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมภาคการท่องเที่ยวครึ่งแรกของปี 2568 ชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานยังอยู่ในระดับที่เอื้อต่อธุรกิจของกลุ่มบริษัท ทำให้การดำเนินการของ BAFS Group ยังคงเติบโตและมีกำไรอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวนรวม 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ด้วยรายได้รวม 876.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ EBITDA มีจำนวน 422.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกในปี 2568 ของ BAFS Group มีกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทจำนวน 199.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 9% ตามการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจ Aviation และการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจ Utilities โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,843.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ EBITDA เติบโต 9% มาอยู่ที่ 944.4 ล้านบาท ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของผลการดำเนินงานงวดหกเดือนแรกของปี 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 และให้กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 11 กันยายน 2568
กลุ่มธุรกิจ Aviation ในช่วงครึ่งปีแรกมีการฟื้นตัวด้วยอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อย โดยมีปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานอยู่ที่ 2,679 ล้านลิตร จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 5,400 ล้านลิตร ซึ่งสอดคล้องกับการชะลอตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ในภาพรวมพบว่าการเดินทางทางอากาศยังคงมีเสถียรภาพ เนื่องจากสายการบินยังคงรักษาจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศได้ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน และแม้ว่าปริมาณการเติมน้ำมันของจีนจะลดลงเล็กน้อย แต่ในทางกลับกันจำนวนเที่ยวบินจากอินเดียแสดงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีปริมาณการเติมน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักคือการขยายเส้นทางบินตรงระหว่างเมืองรองของอินเดียกับประเทศไทย นอกจากนี้ เส้นทางการบินอื่นๆ รวมถึงเส้นทางบินภายในประเทศยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาพรวมของธุรกิจเติมน้ำมันอากาศยานได้
กลุ่มธุรกิจ Utilities มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดเชิงรุก โดยในครึ่งปีแรกมีปริมาณขนส่งน้ำมันอยู่ที่ 704 ล้านลิตร เติบโตขึ้นถึง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 55% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 1,290 ล้านลิตร นอกจากนี้ โครงการเชื่อมต่อระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 3 (อ่างทอง-สระบุรี) ในปัจจุบันมีความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการราว 32% มั่นใจเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2569 ในขณะที่ กลุ่มธุรกิจ Power ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บจ. บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่คอร์เปอเรชั่น ได้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) กำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 0.9 เมกะวัตต์แล้วเสร็จ โดยเริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ (COD) และทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
“นอกจากนี้ BAFS ได้ดำเนินโครงการยกระดับการให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ด้วยความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล เชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัตโนมัติในรูปแบบ Real-time สนับสนุนระบบการเติมน้ำมันให้มีความรวดเร็ว แม่นยำ ปลอดภัย ลดความผิดพลาด และเพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อมูล โดยการนำระบบ IRIS (Intelligent Refuelling Information System) หรือระบบจัดการเติมน้ำมันอัจฉริยะเข้าสู่กระบวนการปฏิบัติงานจริง (Go live) ในไตรมาสที่ผ่านมา”
ยอดนิยม

IP ผลงาน 6 เดือนแรก ฟอร์มแกร่ง! กำไร 60 ลบ.-รายได้ 1,075 ลบ. ตั้งเป้า 5 ปี ก้าวสู่ “บริษัทนวัตกรรมขั้นสูง” รายได้ทะลุ 5 พันลบ.

DITTO ครึ่งปีแรกกำไร 314 ล้านบาท เพิ่ม 37% Q2 โต 34% ปันผลระหว่างกาล 0.25 บาท/หุ้น ถือหุ้น Growpro เสริมแกร่ง

TTA รายงานกำไรสุทธิ 942 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ กลุ่มการลงทุนอื่น และฐานะการเงินที่มั่นคง

MK GROUP ลุยบุฟเฟต์ดันยอดขายดี พลิก SSSG เป็นบวก 9% พร้อมไฟเขียวปันผล 0.50 บาท/หุ้น
