Fund / Insurance
TLI ผลงาน 6 เดือนปี68กำไรธุรกิจใหม่โต28% เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
15 สิงหาคม 2568
บมจ.ไทยประกันชีวิต(TLI) ระบุผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2568 มูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB) อยู่ที่ 4,258 ล้านบาท เติบโต 28.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากยอดขายที่เติบโตทุกช่องทางการขาย ภายใต้มาตรฐานบัญชีใหม่ กำไรสุทธิยังคงแข็งแกร่งที่ 6,328 ล้านบาท โดยมูลค่าพื้นฐานของกิจการเติบโตอีก 9.9% ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 198,701 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17.4 บาทต่อหุ้น

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TLI เปิดเผยว่า การเติบโตของ VONB มาจากการเติบโตของการขายของทุกช่องทางการขาย โดยเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) ในช่วง 6 เดือนแรกอยู่ที่ 6,725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการขายผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิตซึ่งเป็นช่องทางการขายหลักของบริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขายสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพที่ยังคงมีความต้องการจากผู้บริโภค สำหรับช่องทางพันธมิตรการเติบโตของ APE มาจากการร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับกำไรในส่วนที่ไม่รวมรายการพิเศษและผลกระทบจากความผันผวนของตลาด สูงถึง 5,955 ล้านบาท เติบโต 11.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัท ฯ ยังมีกำไรจากการรับประกันภัยเป็นหลัก อยู่ที่ 5,069 ล้านบาท ขณะที่กำไรจากการลงทุนที่ไม่รวมรายการพิเศษและผลกระทบจากความผันผวนของตลาด มีการเติบโตสอดคล้องกับการเติบโตของพอร์ตลงทุนและธุรกิจประกันภัย
ทั้งนี้พอร์ตการลงทุนของบริษัทฯ มีการกระจายความเสี่ยงทั้งในและนอกประเทศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 มากกว่า 85% ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมด อยู่ในรูปแบบตราสารหนี้ที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับที่น่าลงทุน
ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Embedded Value) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เพิ่มขึ้น 9.9% จากสิ้นปี 2567 เป็น 198,701 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17.4 บาทต่อหุ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน หรือ CAR Ratio ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 577.9% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้อยู่ที่ 140% สะท้อนสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่งอันเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืน
ไทยประกันชีวิต ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และพัฒนาประสิทธิภาพการบริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีและไร้รอยต่อให้กับลูกค้า ผ่าน “แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต” อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นช่องทางหลักในการให้บริการลูกค้าในการเข้าถึงข้อมูลกรมธรรม์และความคุ้มครองได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมขยายบริการด้านสุขภาพ ไทยประกันชีวิต Health Care Solutions อาทิ บริการไทยประกันชีวิต Telemedicine และ ไทยประกันชีวิต ฮอตไลน์ บนแอปพลิเคชัน
ขณะเดียวกัน ไทยประกันชีวิต ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับตัวแทนฯ Agency Super Application (TL SMART) เพื่อยกระดับการทำงานด้วยประสบการณ์ที่สะดวกรวดเร็ว ผ่านระบบบริหารจัดการแบบครบวงจรในรูปแบบ Dashboard ซึ่งช่วยให้กระบวนการสรรหาตัวแทนฯ มีความคล่องตัว ตั้งแต่การสร้างโอกาสทางธุรกิจ การวางแผนอาชีพ การจำลองสถานการณ์การขาย จนถึงการขอใบอนุญาตตัวแทนฯ พร้อมฟีเจอร์ด้านการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพเพื่อการเติบโตในสายอาชีพอย่างต่อเนื่อง

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TLI เปิดเผยว่า การเติบโตของ VONB มาจากการเติบโตของการขายของทุกช่องทางการขาย โดยเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) ในช่วง 6 เดือนแรกอยู่ที่ 6,725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการขายผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิตซึ่งเป็นช่องทางการขายหลักของบริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขายสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพที่ยังคงมีความต้องการจากผู้บริโภค สำหรับช่องทางพันธมิตรการเติบโตของ APE มาจากการร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับกำไรในส่วนที่ไม่รวมรายการพิเศษและผลกระทบจากความผันผวนของตลาด สูงถึง 5,955 ล้านบาท เติบโต 11.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัท ฯ ยังมีกำไรจากการรับประกันภัยเป็นหลัก อยู่ที่ 5,069 ล้านบาท ขณะที่กำไรจากการลงทุนที่ไม่รวมรายการพิเศษและผลกระทบจากความผันผวนของตลาด มีการเติบโตสอดคล้องกับการเติบโตของพอร์ตลงทุนและธุรกิจประกันภัย
ทั้งนี้พอร์ตการลงทุนของบริษัทฯ มีการกระจายความเสี่ยงทั้งในและนอกประเทศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 มากกว่า 85% ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมด อยู่ในรูปแบบตราสารหนี้ที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับที่น่าลงทุน
ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Embedded Value) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เพิ่มขึ้น 9.9% จากสิ้นปี 2567 เป็น 198,701 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17.4 บาทต่อหุ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน หรือ CAR Ratio ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 577.9% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้อยู่ที่ 140% สะท้อนสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่งอันเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืน
ไทยประกันชีวิต ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และพัฒนาประสิทธิภาพการบริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีและไร้รอยต่อให้กับลูกค้า ผ่าน “แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต” อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นช่องทางหลักในการให้บริการลูกค้าในการเข้าถึงข้อมูลกรมธรรม์และความคุ้มครองได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมขยายบริการด้านสุขภาพ ไทยประกันชีวิต Health Care Solutions อาทิ บริการไทยประกันชีวิต Telemedicine และ ไทยประกันชีวิต ฮอตไลน์ บนแอปพลิเคชัน
ขณะเดียวกัน ไทยประกันชีวิต ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับตัวแทนฯ Agency Super Application (TL SMART) เพื่อยกระดับการทำงานด้วยประสบการณ์ที่สะดวกรวดเร็ว ผ่านระบบบริหารจัดการแบบครบวงจรในรูปแบบ Dashboard ซึ่งช่วยให้กระบวนการสรรหาตัวแทนฯ มีความคล่องตัว ตั้งแต่การสร้างโอกาสทางธุรกิจ การวางแผนอาชีพ การจำลองสถานการณ์การขาย จนถึงการขอใบอนุญาตตัวแทนฯ พร้อมฟีเจอร์ด้านการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพเพื่อการเติบโตในสายอาชีพอย่างต่อเนื่อง