กระดานข่าว

KCC โตกระฉูด!!ไตรมาส 2 ปี 68 โกยกำไร เฉียด 98.6 ล้านบาทพุ่ง 332%


14 สิงหาคม 2568

บมจ.ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง (KCC) ท็อปฟอร์ม!! โชว์ผลดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งไตรมาส 2 ปี 68 อวดกำไร 98.6  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 332%  หนุนงวดครึ่งปีกำไร 112.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 187% เก็บเกี่ยวผลการลงทุนก่อนหน้า -  ลุยลงทุนซื้อหนี้ NPL เข้าพอร์ตเพิ่มอีก 187 ล้านบาท  ขณะที่เงินสดรับจากลูกหนี้เพิ่มขึ้นแตะ 400 ล้านบาท  

คุณทวี KCC (1).jpg

นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ.ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง (KCC)  ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ดำเนินการลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เปิดเผยถึงผลดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในงวดไตรมาส  2 ปี 2568 ว่า  กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ   อยู่ที่ 98.6  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 332% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.8 ล้านบาท หนุนให้งวดครึ่งแรกปี 2568 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิรวม 112.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 187% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.2 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมจำนวน 171.1 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 145% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 69.7 ล้านบาท  ขณะที่งวด 6 เดือนบริษัทมีรายได้รวม  231.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 131.5 ล้านบาท  

“การเพิ่มขึ้นของรายได้รวมในงวดนี้เป็นผลจากการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัทไม่ได้มีรายการพิเศษใดๆ แต่เป็นผลลัพธ์โดยตรงจากประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริษัทได้จัดหาบริหารไว้ก่อนหน้านี้  ซึ่งโดยปกติในช่วงเริ่มต้นของการเข้าซื้อ NPL เข้าพอร์ต มักจะยังไม่สร้างรายได้ทันที เนื่องจากต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ เจรจา ปรับโครงสร้างหนี้ และดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อพอร์ตเข้าสู่ช่วงที่เหมาะสม ผลตอบแทนจากการบริหารจะเริ่มสะท้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง  เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ ที่สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารพอร์ตหนี้ที่เริ่มสร้างผลตอบแทนอย่างเป็นรูปธรรมหลังจากช่วงเวลาการจัดหาและบริหารสินทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KCC กล่าว 

นอกจากนี้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทได้เข้าลงทุน ซื้อพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้น  จำนวน 187 ล้านบาท การขยายพอร์ตเป็นไปตามกลยุทธ์ระยะยาวในการเพิ่มฐานสินทรัพย์ของบริษัท และเพิ่มโอกาสสร้างกระแสเงินสดในอนาคตและผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนและหนุนการเติบโตระยะยาวและยั่งยืน ให้กับบริษัทหนุนให้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน2568 สินทรัพย์รวมของบริษัทขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2,586.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4% จากสิ้นปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2,496 ล้านบาท ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นขึ้นมาอยู่ที่ 1,303 ล้านบาท   เพิ่มขึ้นจาก 1,208 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567   เกิดจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสะสม ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากผลการดำเนินงานที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท

“บริษัทมีหุ้นกู้จำนวนหนึ่งที่จะครบกำหนดไถ่ถอนภายในเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งบริษัทได้วางแผนและจัดเตรียมเงินทุนสำหรับการชำระคืนหุ้นกู้ดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดโดยไม่กระทบต่อสภาพคล่องและการดำเนินงานของบริษัท และสำหรับหุ้นกู้ที่เหลืออยู่บริษัทได้ดำเนินการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการเงินอย่างรอบคอบ ผ่านการติดตามภาวะตลาดเงิน การวางแผนกระแสเงินสดและการกระจายแหล่งเงินทุน เพื่อรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับเหมาะสมและรองรับการชำระคืนภาระหนี้ในอนาคต”

KCC